เลือกตั้ง 66! ม.ศรีปทุม ร่วมดีโหวต ใช้สำนักโพลบน Blockchain ผสานเทคโนโลยี AI ครั้งแรก
ม.ศรีปทุม-ดีโหวต เปิดสำนักโพลบน Blockchainผสานเทคโนโลยี AI มุ่งพัฒนาการเมืองจากเสียงจริงของประชาชนแบบเรียลไทม์ ชี้ ‘เลือกตั้ง’ 66’ ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล-รวมไทยสร้างชาติ’ นำจี้รัฐบาลหน้าเร่งแก้ปัญหา ‘ค่าครองชีพ-หนี้สิน-เศรษฐกิจ’
ดร. ธรรม์ธีร์ สุกโชติรัตน์ อาจารย์ประจำคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม และผู้อำนวยการดีโหวต กล่าวว่า การนำเทคโนโลยี Blockchain และ KYC มาใช้ในกระบวนการสำรวจความเห็นสาธารณะ จะช่วยคลายข้อสงสัยของประชาชนที่อาจมีต่อผลโพลว่า มาจากการสำรวจจริง ๆ หรือไม่ หรือไปสำรวจที่ไหนทำไมบางกลุ่มจึงไม่เคยได้รับการสำรวจ โดยสำหรับสำนักโพลฯ นี้ ประชาชนทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการโหวต เพื่อสะท้อนเสียงของตนได้ โดยระบบจะมีทั้งการแสดงผลโพลดิบแบบเรียลไทม์ และแสดงผลที่ผ่านการประมวลให้กลุ่มตัวอย่างไม่เอนเอียงสำหรับประเด็นสำคัญ ทั้งนี้สำหรับเทคโนโลยีที่ทางสำนักโพลฯ ใช้ นอกจากทำให้จะสามารถประมวลความเห็น ในเชิงปริมาณได้อย่างรวดเร็วและสะท้อนถึงเสียงที่แท้จริงของประชาชนแล้ว เรายังพัฒนาไปสู่การแสดงความเห็น ในเชิงคุณภาพที่ประชาชนสามารถพิมพ์ส่งความเห็นได้อย่างอิสระและประมวลผลด้วยระบบ AI ได้อีกด้วย โดยทางสำนักโพลฯ จะทยอยประกาศผลสำรวจที่เป็นประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป ทั้งนี้ประชาชนทุกคนสามารถร่วมกันทำแบบสำรวจและเสนอความเห็นผ่านทาง www.d-vote.com
เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยศรีปทุม (SPU) ร่วมกับดีโหวต (D-vote) เปิดเผยผลสำรวจ ‘คะแนนความนิยมทางการเมือง 2566’ ระหว่างวันที่ 28 มี.ค. – 10 เม.ย. 2566 จากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกช่วงอายุ ภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,922 ตัวอย่าง ค่าความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 97.0 ผ่านระบบสำรวจความเห็นสาธารณะออนไลน์ของดีโหวต โดยพรรคการเมืองที่ประชาชนจะเลือกให้เป็น ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ อันดับ 1 พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 44.31 อับดับ 2 พรรคก้าวไกล ร้อยละ 21.54 อันดับ 3 พรรครวมไทยสร้างชาติ ร้อยละ 9.56 อันดับ 4 พรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 4.04 อันดับ 5 พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 3.89 สำหรับผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตที่ประชาชนจะเลือกเป็นอันดับ 1 จาก พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 42.89 อันดับ 2 พรรคก้าวไกล ร้อยละ 17.29 อันดับ 3 พรรครวมไทยสร้างชาติ ร้อยละ 8.07 อันดับ 4 พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 6.05 และ อันดับ 5 พรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 5.31 ปัจจัย 3 อันดับแรกที่ทำให้ตัดสินใจลงคะแนนให้พรรคการเมืองคือ ความสามารถ-วิสัยทัศน์ ร้อยละ 56.82 อุดมการณ์พรรค ร้อยละ 43.58 และเคยทำสำเร็จมาแล้วในอดีต ร้อยละ 35.71 โดยปัญหาที่ต้องการให้รัฐบาลหน้า เร่งแก้ไขคือ ค่าครองชีพ-ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ร้อยละ 44.87 ความยากจน-หนี้สิน ร้อยละ 33.47 และเศรษฐกิจอ่อนแอ ร้อยละ 28.39