Jonathan Mann ศิลปินเจ้าของโปรเจกต์ “Song A Day” กลายเป็นตัวอย่างของความเสี่ยงในโลก NFT และคริปโต หลังสามารถทำเงินได้ถึง $3 ล้านจากการขายเพลงกว่า 3,700 เพลงในรูปแบบ NFT เมื่อต้นปี 2022 โดยแต่ละเพลงขายได้ในราคาประมาณ $800 และรับเงินเป็นสกุล Ether (ETH) ทั้งหมด

แต่ด้วยความหวังว่าราคาของ ETH จะพุ่งสูงขึ้น เขาและภรรยาตัดสินใจถือครองเหรียญทั้งหมดโดยไม่มีแผนการขายที่ชัดเจน จนกระทั่งมูลค่า ETH เริ่มร่วงอย่างหนักในช่วงต้นปีนั้น สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงเมื่อกรมสรรพากรสหรัฐฯ (IRS) เรียกเก็บภาษีรายได้มูลค่ากว่า $1.09 ล้าน เนื่องจากรายได้จากการขาย NFT ถือเป็นรายได้ที่ต้องเสียภาษีเต็มจำนวน ณ วันที่รับ ETH โดยไม่สนใจว่ามูลค่าของเหรียญจะลดลงในภายหลัง

เพื่อหลีกเลี่ยงการขาย ETH ในช่วงราคาตกต่ำ, Mann ใช้ทางเลือกการกู้เงินผ่านโปรโตคอล Aave โดยใช้ ETH เป็นหลักประกัน แต่เมื่อเกิดวิกฤตการล่มสลายของ Terra ecosystem ส่งผลให้ตลาดคริปโตทั่วโลกพังทลาย เงินกู้ของเขาถูกบังคับขายหลักประกันจนสูญเสีย ETH ไปกว่า 300 เหรียญ ภายในพริบตาเงินเก็บสะสมแทบทั้งหมดก็หายไป

ในที่สุด Mann ต้องหาทางชำระภาษีเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านกฎหมายและการสูญเสียทรัพย์สินอื่น ๆ เขาตัดสินใจขาย Autoglyph NFT ชิ้นหายากที่เขาถือครองมาตั้งแต่ยุคแรกของคริปโตในราคา $1.1 ล้าน เพื่อนำเงินไปชำระภาษี และโชคดีที่ไม่ต้องเสียภาษีกำไรเพิ่มเติมเนื่องจากขาดทุนจากการชำระบัญชีเงินกู้ก่อนหน้า

แม้ผ่านเหตุการณ์อันเจ็บปวดมาแล้ว แต่ Mann ยังคงมุ่งมั่นสร้างผลงานเพลงใหม่ทุกวัน และยังคงขายเพลงของเขาในรูปแบบ NFT ต่อไป พร้อมความหวังว่าจะสามารถกลับมาทำเงินหลักล้านได้อีกครั้งในอนาคต