Arthur Hayes อดีตซีอีโอ BitMEX มองว่า Bitcoin อาจเผชิญแรงเทขายในระยะสั้น โดยมีโอกาสย่อตัวลงไปถึงระดับ $90,000–$95,000 ก่อนจะฟื้นตัวอย่างรุนแรงในรอบถัดไป ซึ่งจะได้รับแรงหนุนจาก “สภาพคล่องใหม่” ที่เกิดจาก stablecoin ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์สหรัฐฯ โดย Hayes ชี้ว่านี่คือฟันเฟืองสำคัญที่จะเชื่อมโลกการเงินดั้งเดิมเข้ากับสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

เขาอธิบายว่า ด้วยภาระหนี้ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ US Treasury จะต้องหาทางดึงเม็ดเงินเข้าสู่ระบบพันธบัตรโดยไม่ผลักดันดอกเบี้ยให้สูงขึ้น และ stablecoin ที่ออกโดยธนาคาร จะเข้ามาช่วยดูดซับเงินฝากส่วนเกินของระบบ และเปลี่ยนเป็นอุปสงค์ในพันธบัตรรัฐบาล โดยไม่ต้องพึ่งการกระตุ้นเศรษฐกิจจาก Fed โดยตรง — เทียบได้กับ “QE ทางเลือก” ในรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน

การมาถึงของ GENIUS Act ซึ่งผ่านวุฒิสภาสหรัฐฯ แล้ว ยิ่งเพิ่มความชัดเจนด้านกฎหมาย ช่วยให้ธนาคารสามารถแปลงเงินฝากเป็น stablecoin ได้อย่างถูกต้อง หากเพียง 40% ของเงินฝากทั้งระบบ (กว่า $17 ล้านล้าน) ถูกนำมาใช้ ก็อาจปลดล็อก สภาพคล่องใหม่มูลค่ากว่า $6.8 ล้านล้าน ซึ่ง Hayes เชื่อว่าเม็ดเงินจำนวนนี้จะไหลย้อนกลับมาสู่สินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะ Bitcoin

แม้ Hayes เตือนว่าตลาดอาจผันผวนในระยะสั้นจากแรงขายทำกำไรและความไม่แน่นอนจาก Fed แต่เขายังย้ำจุดยืนระยะยาว โดยตั้งเป้า Bitcoin ทะลุ $1,000,000 ภายในปี 2028 พร้อมมองว่าช่วงราคาต่ำใกล้ $90,000 คือ “จังหวะทองของนักลงทุนสายกล้า” ก่อนตลาดจะเดินหน้าสู่รอบขาขึ้นครั้งใหญ่ที่แท้จริง ขณะนี้ Bitcoin เคลื่อนไหวที่ประมาณ $109,789 เพิ่มขึ้น 1.85% ภายในวันเดียว และวอลุ่มพุ่งขึ้นกว่า 20% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา