ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติฟันธง! คริปโต-สเตเบิลคอยน์ ยังไม่ใช่ “เงินที่แท้จริง” มั่นใจอนาคต เงินของธนาคารกลาง ยังคงเป็นศูนย์กลาง

ในการประชุม Central Banking Summer Meetings นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แสดงมุมมองต่ออนาคตของ “เงิน” โดยชี้ว่าแม้นวัตกรรมทางการเงิน เช่น คริปโตเคอร์เรนซี และสเตเบิลคอยน์ กำลังเติบโต แต่ยังไม่สามารถทำหน้าที่ของ “เงิน” ได้อย่างสมบูรณ์ เพราะไม่ผ่านครบทั้ง 3 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ หน่วยวัดมูลค่า (UOA), สื่อกลางในการชำระเงิน (MOP) และกลไกการโอนที่ปลอดภัย
เขาเน้นว่า UOA เป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของเงิน เพราะเปรียบเสมือน “หน่วยวัดนามธรรม” ที่ใช้เปรียบเทียบมูลค่าสินค้าและบริการทุกอย่าง หากเงินรูปแบบใหม่ไม่สามารถรักษาเสถียรภาพของ UOA ได้ จะนำไปสู่ปัญหา เช่น เงินเฟ้อสูงหรือเงินฝืดรุนแรง ซึ่งอาจทำให้ประชาชนหมดศรัทธา และหันไปใช้เงินของต่างประเทศแทน
ในกรณีของคริปโตเคอร์เรนซีและสเตเบิลคอยน์ นายเศรษฐพุฒิมองว่ายังไม่สามารถรักษาเสถียรภาพของมูลค่าได้จริง ขัดกับหลัก “ความเป็นเอกภาพของเงิน” (Singleness of Money) ซึ่งกำหนดว่าเงินทุกรูปแบบควรมีมูลค่าเท่ากัน และสามารถแลกเปลี่ยนกันได้โดยไม่ก่อให้เกิดความสับสนหรือความเสี่ยง
เขาย้ำว่า “ความน่าเชื่อถือ” เป็นรากฐานสำคัญของระบบการเงิน และธนาคารกลางยังคงเป็นเสาหลักในการสร้างความเชื่อมั่น แม้บางหน้าที่ของเงินอาจมอบหมายให้เอกชนทำได้ เช่น การออก e-Money แต่ธนาคารกลางต้องเป็นผู้กำกับดูแลเพื่อให้ระบบการเงินยังคงมั่นคงและน่าเชื่อถือเสมอ
สุดท้าย ผู้ว่าฯ ธปท. ทิ้งท้ายว่า แม้อนาคตของเงินจะพัฒนาอย่างไร แต่ “เงินของธนาคารกลาง” จะยังคงเป็นศูนย์กลางของระบบการเงินเสมอ และอนาคตของเงินจะไม่ใช่โทเค็นดิจิทัลแบบกระจายศูนย์ที่ขาดความเชื่อมโยงกับธนาคารกลางโดยสิ้นเชิง.