Binance–KuCoin ปรับทัพ! ถอด “เงินบาท” ออกจากระบบ P2P สอดรับกฎเข้ม ก.ล.ต. ไทย

วงการคริปโตในประเทศไทยเริ่มสั่นคลอน เมื่อ Binance และ KuCoin สองแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตยักษ์ใหญ่ระดับโลก ประกาศถอด “สกุลเงินบาท (THB)” ออกจากระบบซื้อขายแบบ Peer-to-Peer (P2P) และบริการที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นทางการ ส่งสัญญาณชัดถึงการปรับกลยุทธ์เพื่อสอดรับกับกฎระเบียบใหม่ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของไทย
เมื่อวันที่ 17 เมษายน ผู้ใช้ Binance หลายรายได้รับแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชันว่า การซื้อขาย P2P ด้วยเงินบาทจะสิ้นสุดลงในเร็วๆ นี้ โดย Binance Global แนะนำให้ผู้ใช้ชาวไทยเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์ม Binance TH ซึ่งเป็นช่องทางที่ได้รับการอนุญาตอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานไทย รองรับการซื้อขายด้วยเงินบาทโดยตรง
ด้าน KuCoin เองก็ประกาศระงับบริการ P2P ที่เกี่ยวข้องกับเงินบาท รวมถึงบริการ Fast Buy ผ่านบัตรธนาคารไทย มีผลตั้งแต่ 17 เมษายน 2025 เวลา 08:00 น. ตามเวลา UTC พร้อมยืนยันว่าทรัพย์สินของผู้ใช้งานยังคงปลอดภัย ทั้งนี้ KuCoin ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการเร่งดำเนินงานด้านการปฏิบัติตามกฎหมาย (compliance) ให้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ของแต่ละประเทศ
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจาก ก.ล.ต. ไทยประกาศมาตรการเข้มข้นขึ้นเมื่อวันที่ 8 เมษายน เพื่อปราบปราม “บัญชีม้า” ที่ใช้ฟอกเงินผ่านคริปโต โดยกำหนดบทลงโทษหนัก รวมถึงบังคับให้ธนาคาร, ค่ายมือถือ, แพลตฟอร์มโซเชียล และธุรกิจคริปโต ต้องรับผิดชอบหากละเลยมาตรการป้องกัน
นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังให้อำนาจกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) ในการบล็อกเว็บไซต์แพลตฟอร์มต่างประเทศที่ฝ่าฝืนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายนี้สะท้อนภาพรวมของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทยที่กำลังเข้าสู่การควบคุมอย่างจริงจัง พร้อมบีบให้ผู้ให้บริการระดับโลกต้องเลือกเส้นทางที่ถูกต้องตามกฎหมายหากต้องการทำธุรกิจในไทยต่อไป.