ตลาดคริปโตกลับมาคึกคักอีกครั้งเมื่อ Bitcoin (BTC) พุ่งทะลุระดับ $110,000 ขณะที่ Ethereum (ETH) แตะระดับสูงสุดในรอบ 15 สัปดาห์ที่ $2,827 ท่ามกลางบรรยากาศเชิงบวกจากการที่คณะกรรมาธิการเกษตรของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีมติเห็นชอบร่างกฎหมาย Digital Asset Market Clarity Act ที่จะช่วยชี้แจงบทบาทของ SEC และ CFTC ในการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างชัดเจนมากขึ้น

นักวิเคราะห์จากหลายสำนัก รวมถึง Bitwise มองว่าแนวโน้มราคาของ Bitcoin ยังมีโอกาสไปต่อ โดยประเมินว่าหากปัจจัยด้านนโยบายการเงินของสหรัฐฯ และญี่ปุ่นเอื้อต่อสินทรัพย์เสี่ยง ประกอบกับความสนใจจากบริษัทจดทะเบียนที่นำ BTC มาเก็บในคลังมากขึ้น อาจทำให้ราคาขึ้นไปแตะ $200,000 – $230,000 ภายในสิ้นปีนี้ โดยบริษัทอย่าง Trump Media, KULR Technology และ BitMine ต่างประกาศเพิ่มการถือครอง Bitcoin อย่างมีนัยสำคัญ

Ethereum เองก็มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง หนุนให้ราคาเบรกกรอบสะสมระยะเดือนก่อนหน้า โดยจำนวน unique addresses พุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 17.4 ล้าน ขณะเดียวกัน open interest ในตลาด futures ของ ETH ทะลุ $40 พันล้านดอลลาร์ เป็นครั้งแรก บ่งชี้ถึงกระแสการเข้ามาของนักลงทุนสถาบันอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีความกังวลเรื่องรายได้จากค่าธรรมเนียมที่ลดลงจากการใช้ rollups

ในแง่เทคนิค Bitcoin เพิ่งส่งสัญญาณ bullish จากเครื่องมือ Optimized Trend Tracker (OTT) เป็นครั้งแรกในรอบเกือบปี ขณะที่โมเดลคาดการณ์ราคาตามแนวโน้ม “power law” ที่เคยใช้ได้ผลในรอบก่อน ๆ ก็สอดคล้องกับเป้าหมาย $200,000 นักลงทุนจึงเริ่มกลับมามีความมั่นใจในตลาดคริปโตอีกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อมองว่าการถือครอง BTC อาจเป็นหนึ่งในวิธีป้องกันความเสี่ยงจากภาวะหนี้สาธารณะที่เพิ่มสูงขึ้นของสหรัฐฯ

โดยรวม การปรับตัวขึ้นของราคาสินทรัพย์คริปโตครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงผลจากความผันผวนของตลาด แต่ยังมีแรงขับเคลื่อนจากทั้งฝั่งนโยบาย, ความเคลื่อนไหวของนักลงทุนสถาบัน และปัจจัยเชิงโครงสร้างของเครือข่ายที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในฝั่งของ Bitcoin และ Ethereum