บริษัทคริปโตยักษ์ใหญ่ Bybit ออกอัปเดตล่าสุด เผยว่าเกือบ 28% ของเงินคริปโตมูลค่ารวม $1.4 พันล้าน ที่ถูกแฮกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ได้กลายเป็น เงินที่ไม่สามารถติดตามเส้นทางได้อีกต่อไป ท่ามกลางความพยายามของบริษัทในการตามรอยกลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อว่าได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีเหนือ หรือที่รู้จักในชื่อ Lazarus Group

เหตุการณ์แฮกครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ทำให้ Bybit สูญเสีย 400,000 ETH และโทเคนที่เกี่ยวข้องอีกกว่า 113,000 รายการ แม้ Bybit เคยเปิดเผยว่าเงินที่ถูกขโมยกว่า 77% ยังสามารถติดตามได้ แต่ตัวเลขล่าสุดกลับลดลงเหลือเพียง 68.57% ขณะที่มีเพียง 3.84% หรือประมาณ $53 ล้าน ที่สามารถแช่แข็งและป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์นำไปใช้ได้

แฮกเกอร์ใช้กลยุทธ์ซับซ้อนในการฟอกเงิน โดยนำเงินที่ขโมยมา ผ่านตัวผสมคริปโต (Mixers) เช่น Wasabi, Tornado Cash และ Railgun เพื่อซ่อนแหล่งที่มา จากนั้นใช้ บริการข้ามเครือข่าย (Cross-chain) อย่าง Thorchain, LiFi และ Stargate เพื่อกระจายเงินไปยัง blockchain อื่น ๆ สุดท้ายจึงแปลงเป็นเงินจริงผ่าน ตลาด P2P และ OTC

เหตุการณ์นี้ตอกย้ำปัญหาใหญ่ในวงการคริปโตว่า แม้เทคโนโลยี blockchain จะโปร่งใส แต่ เครื่องมือฟอกเงินแบบใหม่ กลับสามารถหลบเลี่ยงการติดตามได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็น สัญญาณเตือนถึงช่องโหว่ของระบบป้องกันการฟอกเงินในตลาดคริปโตทั่วโลก