Changpeng Zhao หรือ CZ ผู้ก่อตั้ง Binance ประกาศชัดบนเวที Binance Blockchain Week ว่า “ตั้งใจเต็มที่ที่จะทำให้อเมริกาเป็นเมืองหลวงคริปโตของโลก” หลังได้รับอภัยโทษจาก Donald Trump ซึ่งเปิดทางให้ Binance กลับมาทำธุรกิจในสหรัฐได้คล่องตัวขึ้นอีกครั้ง

CZ เปิดเผยระหว่างงานที่ดูไบว่าเขา “ซาบซึ้งในอภัยโทษจาก Trump อย่างมาก” เพราะทำให้ Binance สามารถขยายธุรกิจในระดับโลก รวมถึงหันกลับมามองตลาดสหรัฐอีกครั้ง หลังจากช่วงรัฐบาล Biden บริษัทพยายามถอนตัวและลดการลงทุนในประเทศ เนื่องจากอุปสรรคด้านกฎหมายและการฟ้องร้อง โดยเฉพาะคดีจาก SEC ที่ทำให้ Binance US สูญเสียการเข้าถึงบริการธนาคารและใบอนุญาตในหลายรัฐ ส่งผลให้สาขาในสหรัฐยังคงเป็นเพียงธุรกิจขนาดเล็ก แม้เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2019

CZ ระบุว่าสหรัฐยังคงเป็น “ตลาดสำคัญมาก” ทั้งด้านเทคโนโลยีและบุคลากร พร้อมชี้ว่าหลายบริษัทใหญ่ในวงการคริปโต—including Binance—ไม่ได้มีฐานอยู่ในอเมริกา และเขาต้องการ “พาธุรกิจเหล่านี้กลับเข้าไปในภูมิภาค” อีกทั้งยังเห็นว่าสถาบันการเงินหลายแห่งแทบไม่ได้มี exposure ต่อ BNB เลย ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาต้องการผลักดันในยุคที่สหรัฐเริ่มชัดเจนขึ้นด้านกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งจาก GENIUS Act ที่กำกับ stablecoin และ CLARITY Act ที่ร่างเพื่อกำหนดความหมายของสินทรัพย์ดิจิทัล

ในมุมมองของ CZ การเติบโตของคริปโตต้องมาจาก “การเชื่อมต่อระหว่างธนาคารและธุรกิจคริปโต” พร้อมย้ำว่ากฎระเบียบชุดแรกมักไม่สมบูรณ์และต้องใช้เวลาในการพัฒนา เขาเปิดเผยว่าได้ร่วมทำงานกับรัฐบาลกว่า 12 ประเทศเพื่อวางกรอบกำกับสินทรัพย์ดิจิทัล และมองว่าสหรัฐกำลังก้าวขึ้นมานำหน้าประเทศอื่นในปีแรกของยุค Trump ขณะที่ในด้านส่วนตัว CZ กล่าวถึงโทษจำคุก 4 เดือนในปี 2024 ว่าเป็นบททดสอบครั้งใหญ่ แต่ “ไม่มีผู้ใช้รายใดได้รับความเสียหายจากการกระทำของผม” และย้ำว่ายังคงเชื่อมั่นว่าตนกำลังสร้างประโยชน์ให้ผู้คนจำนวนมาก