ส่อง 6 โปรเจกต์นำร่อง ขับเคลื่อนแผน AI แห่งชาติ ทั้ง Thai LLM, Travel Link ตรวจจับธุรกรรมการเงินต้องสงสัยก็มา

ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ภายใต้คณะกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการฯ และผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ กล่าวถึง การจัดทำแผนปฏิบัติการ AI ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมามีผลการดำเนินงานที่สำคัญในด้านต่าง ๆ ทั้ง ด้านจริยธรรมและธรรมาภิบาล มีการจัดทำคู่มือจริยธรรม AI เล่มแรกของไทย ด้านโครงสร้างพื้นฐาน มีการพัฒนาแพลตฟอร์มกลางบริการ AI บนคลาวด์ภาครัฐ (GDCC) รวมทั้งเปิดให้บริการ LANTA ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ทั้งนี้จากการดำเนินงานขับเคลื่อนตามแผนยุทธศาสตร์ในด้านต่าง ๆ ส่งผลให้ปัจจุบันมีบุคลากรเข้ารับการอบรมในโครงการและหลักสูตร AI จำนวน 83,721 คน มีโครงการวิจัยและพัฒนาด้าน AI ในกองทุนวิจัยมูลค่า 1,290 ล้านบาท มีสตาร์ทอัปลงทุนเพิ่มจากการส่งเสริมของรัฐมูลค่า 639 ล้านบาท และที่สำคัญคือจากการจัดอันดับดัชนีความพร้อมด้าน AI ของรัฐบาล (AI Government Readiness Index) ประเทศไทยเลื่อนอันดับขึ้นจาก 59 เป็น 31 ทันทีที่มีแผนปฏิบัติการ AI ในปี 2022
และสำหรับ 6 โปรเจกต์นำร่องได้แก่ 1. พัฒนาศูนย์กลางเชื่อมโยงและการบริการข้อมูลด้านการท่องเที่ยว (Travel Link) เชื่อมโยงข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งจากภาครัฐและเอกชน
เช่น ข้อมูลนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้าไทยรายวัน ข้อมูลการใช้จ่ายในแต่ละพื้นที่จากโครงการเที่ยวด้วยกัน ข้อมูลความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวจากอินเทอร์เน็ต โดยข้อมูลเหล่านี้จะนำมาจัดทำ Data Catalog และแชตบอตการท่องเที่ยวด้วย GenAI
ภาครัฐสามารถวางแผนและการจัดสรรทรัพยากรในพื้นที่ท่องเที่ยว เพื่อลดการกระจุกตัวของนักท่องเที่ยวในเมืองหลัก ภาคเอกชน สามารถนำข้อมูลเชิงลึกไปใช้พัฒนาการแข่งขันทางธุรกิจ และพัฒนาบริการ-ผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ลูกค้า ด้านนักท่องเที่ยวสามารถวางแผนการท่องเที่ยวและค้นหาข้อมูลได้สะดวกขึ้น
2. โครงการ Strengthening Fraud Detection Ecosystem with Data Lab ออกแบบและพัฒนาระบบแลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงข้อมูลการกระทำทุจริตในธุรกรรมทางการเงินต่อประชาชน
มุ่งเน้นที่การเชื่อมโยงกับระบบของผู้ใช้บริการทางการเงินในภาคธนาคาร ตามมาตรา 4 (Central Fraud Registry: CFR) รวมทั้งพัฒนาและประยุกต์ใช้ AI Model ตรวจจับและป้องกันการกระทำทุจริตในธุรกรรมทางการเงินที่ต้องสงสัย
3. ส่งเสริมการประยุกต์ใช้เอไออย่างมีธรรมาภิบาล สนับสนุนการพัฒนางานวิจัยสำหรับเซคเตอร์หรือ Regulator
4. พัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ภาษาไทย (Thai LLM)
5.พัฒนาเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนบุคคลด้วยข้อมูลชีวมิติ (Digital ID) รวมถึงพัฒนาเทคโนโลยีตรวจจับการปลอมแปลงข้อมูลชีวมิติ