ดาราดังเกาหลี Hwang Jung-eum สารภาพยักยอกเงินบริษัทไปลงทุน Crypto กว่า 4.34 พันล้านวอน

เปิดประเด็น: ศาลชี้ชัดยักยอกกว่า 4.34 พันล้านวอน Hwang Jung-eum นักแสดงสาวที่เคยโด่งดังในฐานะพิธีกรและดาวเด่นในรายการเรียลลิตี้โชว์ Because I’m Single ถูกถอดออกจากรายการและแคมเปญโฆษณาทันที หลังเธอสารภาพต่อศาลว่าได้ยักยอกเงินจากบริษัทของตัวเองเพื่อไปลงทุนใน cryptocurrency เป็นจำนวนกว่า 4.34 พันล้านวอน (ประมาณ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จุดเริ่มต้น: หวังสร้างกำไรจาก Crypto แต่พลาดจนกลายเป็นดราม่า Hwang ได้ตั้งบริษัทเอเจนซี่แบบ one-person agency เพื่อจัดการงานบันเทิงและรายได้ต่าง ๆ ของเธอเอง แต่กลับปรากฏว่าเธอใช้เงินดังกล่าวเพื่อซื้อเหรียญคริปโตอย่างลับๆ โดยเธอ ยอมรับในชั้นศาล ที่เมืองเจจูว่า เจตนาแรกคือการใช้เงินไปต่อยอดผ่าน blockchain, DeFi หรือแม้กระทั่ง NFT เพื่อหวังสร้างผลตอบแทนให้บริษัท แต่ท้ายที่สุดเธอกลับทำให้กลายเป็นปัญหาทางกฎหมาย
ผลกระทบในวงการ: ถูกตัดออกจากรายการทีวีและถอนตัวจากโฆษณา หลังสารภาพโทษในศาล ความเคลื่อนไหวในแวดวงบันเทิงก็ร้อนระอุทันที SBS Plus ประกาศ ตัดออนไลน์ฟุตเทจทั้งหมดของ Hwang ออกจากรายการ Because I’m Single และจะ “ลดการออกเสียงพิธีกรของเธอให้น้อยที่สุด” นอกจากนี้ แบรนด์อาหารเสริม Daesang Wellife Nucare ยังตัดสินใจ ดึงโฆษณาที่เพิ่งเปิดตัว และยกเลิกอีเวนต์ออนไลน์ซึ่งเธอเป็นพรีเซนเตอร์ ประเด็นทางกฎหมาย: ทนายความแย้งว่าเงินมาจากค่าตัวเธอเอง ทีมกฎหมายของ Hwang ยืนยันต่อศาลว่า รายได้ของเอเจนซี่มาจากผลงานของเธอคนเดียว จึงเปรียบได้กับเงินส่วนตัว เพียงแต่บริษัทมีข้อจำกัดในการถือครองคริปโตจึงต้องใช้บัญชีบริษัท อย่างไรก็ตาม เธอถูกอัยการตั้งข้อหาภายใต้ Korea’s Act on the Aggravated Punishment of Specific Economic Crimes และต้องเตรียมเข้ารับฟังการพิจารณาคดีต่อไปในเดือนสิงหาคม คดีเกี่ยวเนื่อง: ปราบแก๊งหลอกลงทุน Crypto อีก 25 ราย นอกจากกรณีของ Hwang ล่าสุด ตำรวจเกาหลีใต้จับกุมผู้ต้องสงสัย 25 ราย ที่เกี่ยวพันกับ แก๊งหลอกลงทุน Crypto ซึ่งหลอกผู้เสียหายอย่างน้อย 48 คนเป็นจำนวนกว่า 734 ล้านวอน (ประมาณ 540,000 ดอลลาร์สหรัฐ) โดยใช้วิธีตั้งโปรไฟล์ปลอมว่าเป็น “ที่ปรึกษาการลงทุนคริปโต” หลอกให้โอนเงินผ่าน fake call centers และ crypto exchanges ที่สร้างขึ้น
การเมืองและท่าทีต่อ Crypto: เกาหลีใต้เตรียมเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ ในขณะที่ความตื่นตัวด้านกฎหมายและการควบคุมตลาด cryptocurrency ยังคงเป็นประเด็นร้อน เกาหลีใต้กำลังเตรียมตัวเข้าสู่การ เลือกตั้งประธานาธิบดี วันที่ 3 มิถุนายน หลังจากศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน ถอดถอนประธานาธิบดี Yoon Suk-yeol เมื่อต้นปี ตัวเต็งผู้สมัครหลายคนประกาศนโยบายหนุน Bitcoin spot ETFs รวมถึงการสร้างสมดุลภาษีระหว่าง หุ้น และ crypto ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มที่ภาคการเมืองมอง โอกาสในการเติบโตของคริปโต อย่างจริงจัง
บทสรุป: ศึกดราม่าและความเปลี่ยนแปลงในวงการ Crypto กรณีของ Hwang Jung-eum สะท้อนให้เห็นถึง ความเสี่ยงและความน่าดึงดูด ของตลาด cryptocurrency ที่ยังคงมีผู้ลงทุนจำนวนมากเข้ามาเสี่ยงด้วยความคาดหวังจะได้ผลกำไรสูง ในขณะเดียวกันก็มีด้านมืดอย่างการฉ้อโกงและการหลอกลวงที่ต้องระวัง Investors ควรรักษาวินัยในการลงทุน ตรวจสอบ whitepapers หรือโปรเจกต์ DeFi, NFT และแพลตฟอร์ม staking, airdrop อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ เพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ และเพื่อให้การลงทุนเติบโตอย่างยั่งยืน