สงคราม KYC สะเทือนวงการ! KuCoin เสีย Bitcoin กว่า 77% เมื่อผู้ใช้แห่ถอนเพราะกลัวกฎ

สงคราม KYC สะเทือนวงการ! KuCoin เสีย Bitcoin กว่า 77% เมื่อผู้ใช้แห่ถอนเพราะกลัวกฎ

ข่าวสาร
May 6, 2025 by cryptocamping
Frame 1124 - 2025-05-06T112049.241

ทำไม KuCoin ถึงเจอวิกฤต BTC ชาวคริปโตหลายคนอาจได้ยินข่าวใหญ่ของ KuCoin ที่อยู่ๆ ก็ต้องปรับตัวครั้งใหญ่ในเรื่อง KYC (Know Your Customer) ส่งผลให้เกิดกระแสถอน Bitcoin ออกไปถึง 14,000 BTC ภายในเวลาไม่นาน ในมุมมองของผู้ที่ต้องการรักษาความเป็นส่วนตัว การบังคับใช้ KYC แบบนี้ถือว่าเป็น “จุดเสี่ยง” ที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจย้ายทรัพย์สินออกจากแพลตฟอร์ม เพื่อหลีกเลี่ยงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

KuCoin เหลือทัพ BTC แค่ 4,100 จาก 18,300 ข้อมูลจาก Onchain School ระบุว่า ตั้งแต่ 5 มิถุนายน ถึง 28 มิถุนายน 2023 ทันทีที่ KuCoin มีข่าวลือว่ากำลังจะบังคับใช้ KYC อย่างเข้มงวด ปริมาณสำรอง Bitcoin บนแพลตฟอร์มลดฮวบจาก 18,300 BTC ลงมาเหลือแค่ 4,100 BTC ซึ่งคิดเป็น 77.6% ของทั้งหมด: ก่อน 5 มิถุนายน 2023: สำรองราว 18,300 BTC หลัง 28 มิถุนายน 2023: เหลือเพียง 4,100 BTC ถอนออกทั้งสิ้น 14,200 BTC เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ KuCoin ยืนยันแผน Mandatory KYC สำหรับผู้ใช้ใหม่ทุกคนตั้งแต่ 15 กรกฎาคม 2023 เป็นต้นไป ขณะเดียวกัน ผู้ใช้เก่าก็ต้องทำ KYC หากต้องการใช้งานฟีเจอร์สำคัญ เช่น การฝาก (Deposit) หรือการซื้อ-ขาย (Trading) แม้จะยังสามารถถอนเหรียญได้โดยไม่ผ่าน KYC แต่ก็ถูกจำกัดความสามารถในบางส่วน

ฎ AML เข้มขึ้นและปมกฎหมายในสหรัฐฯ KuCoin อ้างว่า การอัปเกรด KYC ครั้งนี้เป็นไปเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐาน AML (Anti-Money Laundering) ทั่วโลก แต่ความจริงยังเชื่อมโยงกับการกดดันทางกฎหมายในสหรัฐฯ ในปี 2024 สำนักงานอัยการสหรัฐฯ เปิดเผยว่า KuCoin และบริษัทแม่อย่าง PEKEN GLOBAL LIMITED ละเมิดกฎหมาย AML และ KYC ของสหรัฐฯ จึงส่งผลให้ KuCoin ต้องจ่ายค่าปรับสูงถึง 297 ล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งยุติการให้บริการในสหรัฐฯ เป็นเวลาอย่างน้อยสองปี รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า KuCoin เคยปล่อยให้มีเงินน่าสงสัยหลายพันล้านดอลลาร์ไหลผ่านแพลตฟอร์มโดยไม่มีการคัดกรองตามมาตรฐาน FinCEN ทำให้ตรวจพบช่องโหว่ด้านความปลอดภัยอย่างร้ายแรง และเป็นเหตุผลหลักที่บีบให้ต้องปรับเงื่อนไข KYC แบบเต็มรูปแบบ

มิติใหม่ของความเสี่ยง: “Privacy” หรือ “Compliance”? เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ภาค Exchanges ต้องเผชิญทางสองแพร่งระหว่างการรักษาฐานผู้ใช้ที่รักความเป็นส่วนตัว กับการเดินตามกฎหมายที่เข้มงวดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ DeFi, NFT, และโปรเจกต์ Blockchain อื่นๆ เริ่มกระตุ้นให้นักลงทุนทั่วไปเข้ามาในวงการมากขึ้น การรักษาสมดุลระหว่าง ‘การปฏิบัติตามกฎ’ กับ ‘ความคล่องตัวในการลงทุน’ จึงจะยิ่งกลายเป็นประเด็นร้อนแรงในอนาคต

บทสรุป: สัญญาณเตือนสภาพคล่องและข้อคิดสำหรับนักเทรด การปิดระยะห่างระหว่าง Privacy กลายเป็นเรื่องยากขึ้นเรื่อยๆ ในโลกที่ AML และระเบียบต่างๆ กำลังบีบคั้น Exchanges ด้วยกฎข้อบังคับมากมาย กรณีของ KuCoin ที่มี BTC ออกจากแพลตฟอร์มถึง 77% ในระยะเวลาอันสั้นเป็นเหมือน สัญญาณเตือน ให้ทุกฝ่ายตระหนักว่า: ผู้ใช้ ต้องเตรียมพร้อมเสมอเมื่อนโยบาย KYC หรือกฎหมายเปลี่ยนแปลง Exchanges ควรรักษาความน่าเชื่อถือด้วยการสมดุลระหว่างความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย นักลงทุน อาจต้องกระจายพอร์ตไปยังหลายแพลตฟอร์ม เพื่อลดความเสี่ยงทั้งด้านกฎหมายและสภาพคล่อง

KuCoin ยังคงเดินหน้าปรับปรุงโครงสร้างด้าน KYC และ AML ต่อไป แต่คำถามที่ยังค้างคาคือ จะสามารถกู้คืนปริมาณ Liquidity และความเชื่อมั่นจากผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวได้มากน้อยแค่ไหน ใครที่กำลังเทรดหรือทำ staking อยู่บนแพลตฟอร์มต่างๆ คงต้องจับตาดูทิศทางของกฎระเบียบอย่างใกล้ชิด