สองบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดการเงินสหรัฐฯ เดินหน้าสะสมคริปโตอย่างจริงจัง โดย GameSquare Holdings จดทะเบียนใน Nasdaq ประกาศซื้อ Ethereum (ETH) มูลค่า $30 ล้าน พร้อมขยายกรอบงบลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเป็น $250 ล้าน ในขณะที่ Strategy ซึ่งถือเป็นผู้นำด้านการถือครอง Bitcoin (BTC) ก็เพิ่งเข้าซื้อ BTC เพิ่มอีก $740 ล้าน ดันยอดถือครองรวมทะลุ 607,770 BTC มูลค่ารวมกว่า $71.8 พันล้าน

GameSquare เผยว่าการเข้าซื้อ ETH ครั้งล่าสุด คิดเป็นจำนวน 8,351.89 ETH ส่งผลให้บริษัทถือครอง ETH รวมกว่า 10,170 เหรียญ และมีมูลค่าคลังสินทรัพย์ดิจิทัลโดยรวมราว $38 ล้าน โดยบริษัทวางแผนจะนำ ETH เหล่านี้ไปใช้ในโปรโตคอล DeFi เพื่อสร้างผลตอบแทนในรูปแบบ stablecoin และนำกลับไปลงทุนใน ETH เพิ่มเติม อีกทั้งยังทุ่ม $10 ล้าน ในการสะสม NFT ที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมขององค์กร และใช้ DeFi สร้างรายได้ในระดับ 6-10% APR

ในขณะเดียวกัน Strategy ยังคงแสดงความเชื่อมั่นใน Bitcoin อย่างไม่เปลี่ยนแปลง แม้ราคาจะใกล้แตะจุดสูงสุดที่ $122,000 โดยบริษัทเข้าซื้อ BTC เพิ่มอีก 6,220 เหรียญ ระหว่างวันที่ 14–20 กรกฎาคม ที่ราคาเฉลี่ย $118,940 ต่อเหรียญ โดยใช้ทุนจากการขายหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิหลายซีรีส์

กลยุทธ์ของ Strategy แตกต่างจากบริษัทอื่นที่เน้นการป้องกันความเสี่ยง แต่กลับใช้ Bitcoin เป็นแกนกลางของการบริหารคลังอย่างเต็มตัว โดยบริษัทเปิดเผยเมตริกใหม่ชื่อว่า BTC yield ซึ่งคำนวณผลตอบแทนจาก BTC ต่อจำนวนหุ้นทั้งหมด โดยปีนี้อยู่ที่ 20.8% แล้ว ถือเป็นการใช้การ dilution อย่างมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล

นักวิเคราะห์มองว่าคลื่นการสะสม ETH และ BTC ของบริษัทขนาดใหญ่ อาจเป็นหนึ่งในแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ราคาคริปโตกลับมาเคลื่อนไหวในทิศทางบวก โดยเฉพาะฝั่ง Ethereum ที่กำลังได้รับความสนใจจากภาคสถาบันมากขึ้นผ่านการลงทุนใน NFT และ DeFi

แม้ทั้งสองบริษัทจะใช้กลยุทธ์ต่างกัน GameSquare มุ่งเน้น ETH และนวัตกรรม Web3 ขณะที่ Strategy เน้นถือ BTC เป็นสินทรัพย์คลังระยะยาว แต่ทั้งคู่สะท้อนทิศทางเดียวกัน—คริปโตไม่ได้เป็นแค่การเก็งกำไรอีกต่อไป แต่เป็นกลยุทธ์ระดับองค์กรของบริษัทยักษ์ใหญ่ในยุคใหม่