Mastercard หนุน Stablecoin หลัง GENIUS Act แต่ย้ำต้องมีตัวกลาง ไม่ใช่เงินกระจายศูนย์

Mastercard ประกาศจุดยืนสนับสนุนการใช้ stablecoin อย่างเป็นทางการ หลังสภาคองเกรสสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมาย GENIUS Act ซึ่งให้ความชัดเจนด้านกฎระเบียบแก่สินทรัพย์ดิจิทัล โดยมองว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการการเงินดิจิทัล แต่ในขณะเดียวกัน Mastercard ยังยืนยันว่าอนาคตของ stablecoin ต้องมีระบบตัวกลางที่เชื่อถือได้ แทนที่จะเป็นการเงินแบบกระจายศูนย์อย่างสมบูรณ์
Jesse McWaters รองประธานบริหารของ Mastercard ระบุว่า stablecoin กำลังเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญ โดยเฉพาะในด้านการใช้งานจริง เช่น การโอนเงินระหว่างประเทศ ทั้งแบบ B2B และ remittances ซึ่ง stablecoin ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความเร็วได้มากกว่าระบบธนาคารแบบเดิม
อย่างไรก็ตาม McWaters ชี้ว่า การทำให้ stablecoin กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานระดับสากล ต้องพึ่งพาระบบที่ผู้บริโภคเชื่อถือได้ เช่น การคุ้มครองผู้ใช้ ระบบแก้ไขข้อพิพาท และการเชื่อมต่อข้ามแพลตฟอร์ม — ซึ่งทั้งหมดนี้ Mastercard ตั้งใจจะเป็นผู้ให้บริการหลักในระบบนั้น ด้วยบทบาทของ “เครือข่ายการชำระเงินที่เชื่อถือได้มากที่สุดในโลก”
ในช่วงที่ผ่านมา Mastercard ได้เปิดตัวโครงการที่เกี่ยวข้องกับ stablecoin หลายรายการ เช่น Mastercard Multi-Token Network และ Mastercard Crypto Credential ที่เน้นด้านความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนด โดยเป็นการนำโมเดลธุรกิจแบบบัตรเครดิตที่คุ้นเคย มาประยุกต์ใช้กับโลกของคริปโต
แม้ Mastercard จะย้ำบทบาทตัวกลางที่มั่นคง แต่แนวคิดนี้อาจขัดกับอุดมการณ์ดั้งเดิมของ stablecoin ที่มุ่งสู่ระบบไร้ตัวกลางอย่างแท้จริง ซึ่งอาจทำให้เกิดคำถามจากชุมชนคริปโตว่า stablecoin ภายใต้ระบบแบบ Mastercard จะยังคงเป็น “เงินกระจายศูนย์” อย่างที่ตั้งใจไว้หรือไม่