นักลงทุนจับตา ตลาดหลักทรัพย์ไทย หุ้น MORE สุดท้ายจะซ้ำรอย กรณี FTX หรือไม่
วันที่ 11 พ.ย.2565 ที่ผ่านมา พบมีการซื้อขายหุ้น บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) ด้วยมูลค่าที่สูงผิดปกติจาก 300 ล้านบาท พุ่งขึ้นเป็น 7,000 ล้านบาทเศษ จนทำให้ราคาพุ่งในวันที่ 10 พ.ย. 2565 กว่า 4.3% โดยช่วงเปิดตลาดปริมาณซื้อขาย 1,500 ล้านหุ้น มูลค่าเกือบ 4,500 ล้านบาท ก่อนจะถูกเทขายอย่างหนักจนร่วงติดฟลอร์จาก 2.90 บาทลงมาปิดที่ 1.37 บาท ซึ่ง ณ ปัจจุบัน นายอภิมุข รักษาวงษ์ หรือปิงปอง ผู้รับซื้อ ไม่มีเงินมาจ่ายค่าหุ้นให้โบรกเกอร์
จากเหตุการณ์นี้ การรวบรวมหลักฐานข้อสงสัยการกระทำความผิดในหุ้น MORE ของ บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) ยังคงต้องรวบรวมข้อมูลเผื่อจะนำข้อมูลทั้งหมดเสนอต่อเจ้าพนักงานได้ ทั้งนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช้กรณีที่เกิดขึ้นบ่อย และอาจเป็นพฤติการณ์ที่ฉ้อโกง ดังนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายที่บริษัทสมาชิกจะต้องหามาตรการรับมือและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหานี้ในอนาคต
เพจชื่อดังอย่างเพจลุงเต่านั่งรถทุกคัน ได้แสดงความเห็นถึงเรื่องนี้ ว่า อันนี้เป็นเรื่องของ ตลาดหลักทรัพย์ไทย หุ้น More นะครับ มองเรื่องราวแล้วใกล้เคียงกับเคส FTT อยู่เหมือนกัน เหมือนเอาลมมาค้ำเงิน แล้วปล่อยโดน Liq
มีคนหัวใสใช้ช่องจากทางระบบ จะบอกว่าช่องโหว่ก็ไม่น่าใช่ เริ่มจากไปซื้อหุ้นตอนราคาหลักสตางค์แล้วปั่นจนเป็น 3 บาท แต่แม้จะปั่นไปขนาดนั้นแล้วก็ไม่สามารถเทใส่ตลาดได้เพราะสภาพคล่องมีไม่มากพอ เพราะงั้นก็เลยเปลี่ยนเป้าไปเอาที่โบรคเกอร์แทน ด้วยวิธีการคือ เอาหุ้น More ในมือตัวเองที่มีมูลค่า 100 ล้านบาทที่ราคา 3 บาทนั้น ไปขอเครดิตวงเงินคูณ 3 เท่า จากแต่ละโบรคเกอร์ ก็เหมือนเอาหุ้นตัวเองไปค้ำ Leverage 3x แหล่ะ ซึ่งเค้าทำไปประมาณ 15 โบรคเกอร์ ทำให้มีวงเงิน 4,500 ล้านบาท และใช้คำสั่งซื้อ ATO กล่าวคือ เป็นราคาซื้อขาย ณ วันเปิดตลาดโดยไม่สน order buy/sell ประมาณว่าซื้อขายกับโบรกเกอร์แทน ซึ่งจะทำให้ตัวเค้าได้เงินจากการขายไปถึง 4,500 ล้านบาท แต่จะเสียหุ้น More ที่ตัวเองมาค้ำไป 20% กล่าวคือ จะได้เงินจริงๆประมาณ 3,600 ล้านบาท
ATO (At the Open) / ATC (At the Close) ATO เป็นคำสั่งซื้อขายที่ใช้เมื่อผู้ลงทุนต้องการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ทันทีที่ตลาดเปิดการซื้อขาย ณ ราคาเปิด โดยสามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้เฉพาะในช่วงเวลาก่อนเปิดตลาด (Pre Open) ทั้งภาคเช้าและภาคบ่าย
งานนี้ถ้ามองตามกฎหมายแล้ว ผู้ที่ทำก็ถือว่าใช้สิ่งที่ระบบให้มาอย่างถูกต้องนะ แต่ก็เรียกว่าโบรกเกอร์น่าจะต้องมีการปิดตัวเองไปหลายรายเลย เราก็ต้องไปให้กำลังใจ คณะ ตลก ละ ว่าเข้มงวดกับทางคริปโตขนาดนี้ แต่ปัญหาไปเกิดที่บ่อนไทย ปัญหา zipmex ก่อนหน้าก็ยังไม่เคลียร์ ปัญหา adminTransfer ที่ไม่ต้องมาเคลียร์ก็ดันยุ่งอยากให้มาเคลียร์ แต่คิดว่าเหมือนเดิมนะ ไม่น่าจะมีใครต้องมารับผิดชอบ