เกาหลีใต้ดัน Stablecoin ผูกวอน หวังยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัล รับมือเงินทุนไหลออก

รัฐบาลใหม่เกาหลีใต้ภายใต้การนำของประธานาธิบดี Lee Jae Myung เตรียมผลักดันการออก Korean won-pegged stablecoins หรือ stablecoin ที่ผูกกับเงินวอน โดยหวังสร้างระบบการเงินดิจิทัลที่อิงกับสกุลเงินท้องถิ่น ลดการพึ่งพาเงินตราต่างประเทศ และรับมือปัญหาเงินทุนไหลออกนอกประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา stablecoin ที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐถูกมองว่าเป็นตัวการสำคัญของการไหลออกของทุน
หัวเรี่ยวหัวแรงหลักของแผนนี้คือ Min Byeong-deok ส.ส.สายซ้ายและอดีตหัวหน้าทีมดิจิทัลของ Lee ซึ่งเสนอร่างกฎหมาย “Digital Asset Basic Act” เพื่อจัดตั้งระบบอนุญาตและกำกับดูแลสำหรับผู้ออก stablecoin โดยชูจุดเด่นว่าการใช้ stablecoin ผูกกับวอนจะช่วยลดต้นทุนการค้าระหว่างประเทศ กระจายความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน และส่งเสริมให้ธุรกิจเกาหลีในภาค e-commerce, เกม และคอนเทนต์สามารถขยายตัวในตลาดโลกได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้ถูกวิจารณ์อย่างหนักจากภาคเอกชนสาย crypto โดยเฉพาะ Brian Hoonjong Paik ซีอีโอของ SmashFi ที่มองว่า “วอน” ไม่ใช่สกุลเงินที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก การออก stablecoin แบบนี้อาจเร่งให้เกิดการเก็งกำไรในตลาด crypto และเปิดช่องให้รัฐบาลควบคุมระบบการเงินเหมือนเป็น “CBDC แฝง” ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกนำไปใช้เพื่อการเซ็นเซอร์
Min ยืนยันว่า stablecoin ที่ออกภายใต้แนวทางใหม่นี้จะขับเคลื่อนโดยภาคเอกชน มีการเปิดเผยข้อมูล reserve อย่างโปร่งใส และอยู่ภายใต้การกำกับเฉพาะในเรื่องมาตรฐานสากล เช่น AML/CFT เพื่อสร้างความเชื่อมั่นจากตลาดโลก พร้อมย้ำว่าจะรักษาหลักการกระจายศูนย์ (decentralization) โดยรัฐจะไม่แทรกแซงในระดับเทคโนโลยีหรือโปรโตคอล
ท่ามกลางแรงเสียดทาน รัฐบาลเกาหลีใต้ยังคงเดินหน้าผลักดันนโยบายคริปโตอื่น ๆ เช่น การยกเลิกการแบน ETF ด้านคริปโต และจัดตั้งคณะกรรมการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้ประธานาธิบดีโดยตรง หวังฟื้นความเชื่อมั่นหลังบทเรียนจากเหตุการณ์ล่มของโปรเจกต์ TerraUSD ที่เคยเกิดขึ้นในประเทศเมื่อปีก่อนหน้า