Stripe ระเบิดศึก Stablecoin! เปิดตัว Stablecoin Financial Accounts ปลดล็อกโลกธุรกิจกว่า 101 ประเทศ

เริ่มต้นด้วยการโฟกัสตลาด Crypto ทั่วโลก เมื่อ Stripe ยักษ์ใหญ่ด้านการชำระเงินระดับโลก ประกาศเปิดตัว Stablecoin Financial Accounts เพื่อรองรับผู้ประกอบการในกว่า 101 ประเทศ ก็เรียกเสียงฮือฮาไม่แพ้การเปิดตัวโปรเจ็กต์ Blockchain ดังๆ ทั่ววงการ ด้วยการนำ Stablecoin อย่าง USDC ของ Circle และ USDB ของ Bridge มาใช้เป็นทางเลือกใหม่ในการทำธุรกรรม การถือครองดิจิทัลดอลลาร์ และรับ-ส่งเงินผ่านทั้ง fiat และ crypto rails ได้ง่ายขึ้น ตอบโจทย์ตลาดใหม่: ป้องกันความผันผวนและสร้างอิสระทางการเงิน ในหลายประเทศที่ประสบปัญหาเงินเฟ้อหรือความผันผวนของค่าเงิน Stablecoin Financial Accounts ของ Stripe จึงเป็นทางรอดที่น่าสนใจ ผู้ประกอบการสามารถถือครองเงินในรูปแบบ stablecoin เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินในประเทศ ลดอุปสรรคในการเข้าถึงตลาดโลก และเสริมสภาพคล่องในการทำธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งไปกว่านั้น Stripe ยังมีแผนรองรับ stablecoin อื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคต
เบื้องหลังดีลใหญ่: เมื่อ Stripe เทคโอเวอร์ Bridge สาเหตุที่ Stripe สามารถเปิดตัวผลิตภัณฑ์ด้าน stablecoin ได้อย่างรวดเร็ว มาจากการเข้าซื้อบริษัทโครงสร้างพื้นฐานอย่าง Bridge มูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์เมื่อต้นปี 2024 ซึ่งถือเป็นดีล M&A ที่ใหญ่ที่สุดในโลก crypto ในขณะนี้ หลังการปิดดีล Stripe ก็เดินหน้าเต็มกำลัง ทั้งการพัฒนา AI-powered Payments Foundation Model ที่ฝังเทคโนโลยี machine learning ปริมาณมหาศาล มาช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย fraud detection และอัตราการอนุมัติธุรกรรม
อ่านเกมขาด: AI และ Stablecoin คือสองกระแสลมแรงของโลกการเงิน Patrick Collison CEO ของ Stripe ระบุชัดว่า AI และ stablecoin คือ “gale-force tailwinds” สองกระแสลมแรงที่พลิกโฉมโลกการเงิน ทุกวันนี้หน่วยงานทางการเงินและบริษัท crypto หลายที่กำลังมองหาช่องทางใหม่เพื่อลดต้นทุนการทำธุรกรรม และขยายตลาดออกไปในระดับสากล การมาของ Stablecoin Financial Accounts จึงเสมือนการยกระดับ ecosystem ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงเหล่า DeFi และ NFT วงการ staking และ airdrop อีกด้วย
ก้าวต่อไป: ตลาด Stablecoin จ่อโตหลักหลายเท่า สถาบันการเงินรายใหญ่อย่าง Citigroup คาดการณ์ว่า มูลค่าตลาดรวมของ stablecoin อาจพุ่งสูงถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 ซึ่งหมายความว่า ผู้ใช้งานทั่วโลกจะยิ่งเห็นความจำเป็นและโอกาสในการนำ digital dollar และ blockchain มาใช้งานอย่างแพร่หลาย Stripe เองก็แสดงท่าทีชัดเจนว่าจะเร่งผลักดันการใช้งาน crypto ตั้งแต่การกลับมาเข้าระบบ Bitcoin อีกครั้ง ไปจนถึงพัฒนาการของ stablecoin สำหรับตลาดนอกสหรัฐฯ ยุโรป และสหราชอาณาจักร บทสรุป ใครที่กำลังจับตามองอุตสาหกรรม crypto และเทคโนโลยีการชำระเงินระดับโลก ต้องไม่พลาดตามอัปเดตความเคลื่อนไหวของ Stripe ซึ่งคาดว่าจะเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญที่ดันการเติบโตและการยอมรับ stablecoin ให้เป็นกระแสไปทั่วโลก หากคุณเป็นผู้ประกอบการที่ต้องการช่องทางใหม่ในการจัดการการเงิน รวมถึงป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน จะถือว่าเป็นสัญญาณดีในการเริ่มสำรวจทางเลือกใหม่อย่าง Stablecoin Financial Accounts ของ Stripe วันนี้
Call to Action: หากคุณสนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเทรนด์การเงินยุคดิจิทัล สามารถติดตามประกาศจาก Stripe อย่างใกล้ชิด หรือทดลองศึกษาความเป็นไปได้ในการเพิ่มช่องทางรับชำระด้วย stablecoin สำหรับธุรกิจของคุณได้เลย!