trive บริษัทไฟแนนซ์ผู้ถือครองบิตคอยน์ที่จดทะเบียนใน Nasdaq ประกาศเปิดตัวโครงการระดมทุนมูลค่า 18,000 ล้านบาท ผ่านการขายหุ้น SATA แบบ At-the-Market เพื่อเตรียมเงินสดสำหรับซื้อ Bitcoin เพิ่มเติมท่ามกลางความต้องการสะสมสินทรัพย์ดิจิทัลระดับสถาบันที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

Strive เปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า บริษัทได้ทำสัญญาร่วมกับ Cantor Fitzgerald, Barclays และ Clear Street เพื่อเสนอขายหุ้น Variable Rate Series A Perpetual Preferred Stock (SATA) แบบ At-the-Market มูลค่าสูงสุด 18,000 ล้านบาท โดยวิธีการขายรูปแบบ ATM นี้จะช่วยให้ Strive สามารถทยอยออกหุ้นสู่ตลาดตามราคาปัจจุบันในแต่ละช่วงเวลา สร้างความยืดหยุ่นด้านสภาพคล่องโดยไม่จำเป็นต้องออกหุ้นล็อตใหญ่ในราคาคงที่เหมือนการทำดีลดั้งเดิม

ในรายละเอียดของหุ้น SATA อัตราเงินปันผลถูกกำหนดที่ 12% ต่อปี และจะเริ่มรอบจ่ายปันผลปกติในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2025 โดย Strive ระบุว่าบริษัทมีสิทธิปรับอัตราปันผลได้ในอนาคต ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์มุ่งสร้างผลตอบแทนระยะยาวจากทุนและบิตคอยน์ที่ถือครองอยู่ ซึ่ง Strive ยืนยันว่าเงินระดมทุนรอบนี้จะถูกนำไปใช้เพื่อซื้อ Bitcoin เพิ่มเติม พร้อมใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจทั่วไป

ก่อนหน้านี้ Strive เพิ่งปิดการขายหุ้น SATA ในรอบ IPO ที่ราคา 80 ดอลลาร์ต่อหุ้น (ราว 2,880 บาท) หลังจากต้องเพิ่มจำนวนหุ้นจาก 1.25 ล้านเป็น 2 ล้านหุ้นเนื่องจากความต้องการซื้อสูง และหุ้นนี้ได้เริ่มเทรดอย่างเป็นทางการบน Nasdaq Global Market แล้ว ปัจจุบัน Strive ถือครอง Bitcoin จำนวน 7,525 BTC ตามข้อมูลล่าสุดเมื่อ 7 พฤศจิกายน โดยมุ่งเป้าสร้างโมเดล “BTC-per-share growth” เพื่อให้ผลตอบแทนรวมดีกว่าการถือบิตคอยน์โดยตรง

ผู้ร่วมก่อตั้งอย่าง Vivek Ramaswamy ชูวิสัยทัศน์ว่า Strive คือบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัลสาธารณะแห่งแรกที่สร้าง Treasury ที่ขับเคลื่อนด้วย Bitcoin อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมระบุในแพลตฟอร์ม X ว่า “โครงการ ATM นี้จะต่อยอดความสำเร็จจาก IPO และเพิ่มทุนที่ช่วยขยายคลัง Bitcoin ของเรา”

ในตลาดหุ้น SATA ปิดบวก 0.088% ที่ราคา 91.15 ดอลลาร์ ขณะที่หุ้นสามัญ ASST ปิดเพิ่มขึ้น 3.57% ที่ 1.02 ดอลลาร์ สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อกลยุทธ์การสะสมบิตคอยน์ในช่วงที่สถาบันเริ่มกลับเข้ามาในตลาดอย่างจริงจัง

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนความมั่นใจของ Strive ต่อศักยภาพของบิตคอยน์ระยะยาว แต่ยังตอกย้ำเทรนด์การถือครอง Bitcoin ของบริษัทสาธารณะ ที่กำลังกลายเป็นกลยุทธ์สร้างมูลค่าใหม่ในยุคที่สินทรัพย์ดิจิทัลเริ่มเข้าสู่เมนสตรีมมากขึ้นเรื่อยๆ