กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการ “Operation Crypto Phantom” เข้าตรวจค้น 8 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ ชลบุรี และภูเก็ต ทลายเครือข่ายลักลอบให้บริการแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีผิดกฎหมาย โดยเฉพาะเหรียญ USDT ผ่านวิธี “ชนมือ” หรือการแลกเงินสดกับคริปโตแบบนัดพบ ซึ่งไม่ผ่านระบบศูนย์แลกเปลี่ยนที่ได้รับอนุญาต ทำให้เลี่ยงการตรวจสอบจากภาครัฐ

การสืบสวนพบว่า ธุรกรรมดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อฟอกเงิน และหลบเลี่ยงภาษี โดยเงินที่ได้ถูกนำไปหมุนเวียนในธุรกิจผิดกฎหมาย เช่น ขบวนการค้ายาเสพติด และเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จากการตรวจสอบพบธุรกรรมกว่า 1,000 รายการ มูลค่ารวมสูงถึง 425 ล้าน USDT หรือประมาณ 14,000 ล้านบาท

เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 5 ราย พร้อมของกลางที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ สมุดบัญชี และ Hardware Wallet โดยพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาเปิด “โต๊ะแลกคริปโต” ให้บริการนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติ ใช้เงินบาทแลกเหรียญดิจิทัล หรือเปลี่ยนคริปโตกลับมาเป็นเงินบาทแบบลับ ๆ ซึ่งถือเป็นช่องทางฟอกเงินข้ามประเทศผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลและแพลตฟอร์ม Exchange ต่างประเทศ

ตำรวจเตือนว่า การแลกเปลี่ยนคริปโตนอกระบบที่ไม่ผ่านศูนย์แลกเปลี่ยนที่ได้รับอนุญาต ไม่เพียงผิดกฎหมาย แต่ยังมีความเสี่ยงสูง ทั้งต่อความปลอดภัยส่วนตัว และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมอาชญากรรม โดยแม้แต่ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจากธนาคารแห่งประเทศไทย หากให้บริการคริปโตโดยไม่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ก็เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายเช่นกัน.