DOJ สหรัฐฯ ยุบหน่วยล่าคริปโต ชูเสรีภาพบล็อกเชน อิงนโยบายทรัมป์

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ประกาศยุบทีม National Cryptocurrency Enforcement Team (NCET) ที่เคยเป็นกำลังหลักในการปราบปรามอาชญากรรมด้านคริปโต รวมถึงคดีใหญ่กับ Binance มูลค่า 4.3 พันล้านดอลลาร์ โดยเปลี่ยนทิศทางนโยบายใหม่ เน้นเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย ยาเสพติด การค้ามนุษย์ และการแฮ็กเท่านั้น
Todd Blanche รองอัยการสูงสุดคนใหม่ และอดีตทนายของ Donald Trump ส่งบันทึกภายในสั่งหยุดฟ้องร้องผู้ให้บริการคริปโต เช่น exchanges, wallet providers และ mixing services หากไม่ได้มีเจตนาทำผิดกฎหมายชัดเจน เขายังระบุว่า DOJ จะไม่เอาผิดนักพัฒนาเพียงเพราะโค้ดของพวกเขาถูกใช้ในทางที่ผิด โดยตำหนิแนวทางยุค Biden ว่าเป็นการ “ควบคุมผ่านการฟ้องร้อง” ที่ไร้ความรับผิดชอบ
นโยบายใหม่นี้อ้างอิงคำสั่งบริหารของ Trump ที่รับรองเสรีภาพในการเข้าถึงระบบบล็อกเชนแบบเปิด โดยไม่ต้องกลัวการถูกดำเนินคดี ซึ่งสอดคล้องกับท่าทีของ Trump ที่เริ่มมีบทบาทเชิงบวกต่อวงการคริปโตมากขึ้น และมีความเชื่อมโยงกับธุรกิจ World Liberty Financial ที่ครอบครัวเขาถือหุ้นรายได้ถึง 75%
แม้ฝั่งนักพัฒนาและสายเทคโนโลยีจะมองว่านี่คือชัยชนะของนวัตกรรมและเสรีภาพ แต่หลายฝ่ายก็แสดงความกังวลว่า การลดบทบาท DOJ อาจเปิดช่องให้กลุ่มหลอกลวงและอาชญากรในโลกคริปโตเคลื่อนไหวได้อิสระมากขึ้นในตลาดที่ยังขาดกฎเกณฑ์ชัดเจน