Uniswap จับมือ Morpho และพันธมิตร เปิดตัว “Web3SOC” มาตรฐานใหม่ยกระดับ DeFi สู่ความร่วมมือกับสถาบันการเงิน

Uniswap จับมือ Morpho และพันธมิตร เปิดตัว “Web3SOC” มาตรฐานใหม่ยกระดับ DeFi สู่ความร่วมมือกับสถาบันการเงิน

ข่าวสาร
June 21, 2025 by cryptocamping
Frame 1124 (34)

Uniswap Labs, Morpho, และพันธมิตรในแวดวงการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) เปิดตัว “Web3SOC” กรอบมาตรฐานใหม่สำหรับประเมินความพร้อมของโปรเจกต์ DeFi ในการจับมือกับสถาบันการเงินอย่างมืออาชีพ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้เล่นระดับองค์กร ในการเข้ามาใช้งานโปรโตคอลแบบไร้ตัวกลางได้อย่างปลอดภัยและมีธรรมาภิบาลที่ชัดเจน

โครงการนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างผู้พัฒนา DeFi ชั้นนำอย่าง Uniswap Labs, Morpho, Maple Finance, Kiln, และ Steakhouse Financial โดยทำงานร่วมกับบริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่าง Cantina และ Secureum พร้อมทั้งเปิดรับความเห็นจากกลุ่มนักลงทุนในอุตสาหกรรม

จุดประสงค์ของ Web3SOC Web3SOC (Web3 System and Organization Controls) เป็นมาตรฐานที่พัฒนาขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องความไม่แน่นอนด้านความปลอดภัย กฎระเบียบ และธรรมาภิบาลในโลก DeFi ซึ่งที่ผ่านมาเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้สถาบันการเงินยังไม่กล้าเข้ามามีส่วนร่วมอย่างจริงจัง Web3SOC จึงถูกออกแบบให้เป็น “มาตรวัดความพร้อม” ของโปรเจกต์ โดยใช้เกณฑ์ประเมินแบบรอบด้าน ทั้งด้านเทคนิค การเงิน กฎหมาย และการบริหารจัดการ

ระบบจัดระดับ “Maturity Tiers” กรอบ Web3SOC ประกอบด้วยระบบจัดระดับความพร้อมของโปรเจกต์ออกเป็น 4 ระดับ หรือ “Maturity Tiers”: Tier 1: Enterprise-grade – พร้อมใช้งานโดยสถาบันขนาดใหญ่ Tier 2-3: กำลังเติบโต – มีความมั่นคงบางส่วน Tier 4: Nascent – โปรเจกต์เริ่มต้นที่ยังต้องปรับปรุงหลายด้าน นอกจากนี้ยังมี Self-assessment tool สำหรับให้โปรเจกต์ประเมินตนเอง และเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ระดับที่สูงขึ้น

เครื่องมือ Due Diligence สำหรับสถาบัน สำหรับฝั่งนักลงทุนและองค์กร Web3SOC ยังทำหน้าที่เป็นเครื่องมือ “due diligence” ที่มีโครงสร้างชัดเจนในการวิเคราะห์โปรเจกต์ DeFi ทั้งในเรื่อง: -ความปลอดภัยของระบบ (Security) -ความมั่นคงทางการเงิน (Financial Stability) -ธรรมาภิบาล (Governance) -การปฏิบัติตามกฎระเบียบ (Regulatory Compliance) สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ Ethereum การเปิดตัว Web3SOC เกิดขึ้นในช่วงที่ Ethereum กำลังขับเคลื่อนตัวเองสู่การเป็น “settlement layer ของโลก” โดยเชื่อว่าในอนาคตการเงินเกือบทุกรูปแบบจะเคลื่อนย้ายขึ้นบนบล็อกเชนทั้งหมด ซึ่งจำเป็นต้องมีโครงสร้างที่เอื้อให้สถาบันสามารถเข้าร่วมได้อย่างมั่นใจ

ทั้งนี้ ความพยายามในการสร้างโครงสร้างแบบมืออาชีพในโลก Web3 ยังได้รับแรงสนับสนุนจากกลุ่ม lobbying อย่าง Etherealize ที่เพิ่งออกรายงานระบุว่า Ethereum อาจมีมูลค่าสูงถึง $740,000 ต่อโทเคนในระยะยาว หากระบบสามารถกลายเป็น “น้ำมันดิจิทัล” ของเศรษฐกิจโลกได้สำเร็จ