พร้อมให้บริการ “หนังสือค้ำประกันบนบล็อกเชน” หลัง ผ่านการทดสอบ ภายใต้ Regulatory Sandbox ของ ธปท. แล้ว

พร้อมให้บริการ “หนังสือค้ำประกันบนบล็อกเชน” หลัง ผ่านการทดสอบ ภายใต้ Regulatory Sandbox ของ ธปท. แล้ว

ข่าวสาร
November 4, 2022 by Cryptocamping
news66

นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยี ทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยในงาน Bangkok Digital Finance Conference 2022 ว่า โครงการระบบหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ (e-LG on Blockchain) ของธนาคาร 18 แห่ง ภายใต้การ ดำเนินงานของบริษัท บีซีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (BCI) ได้ผ่านการทดสอบภายใต้ Regulatory Sandbox ธปท. แล้วและพร้อมให้บริการในวงกว้าง

โครงการ e-LG on Blockchain เกิดจากความร่วมมือของธนาคารพาณิชย์ไทยผ่านการจัดตั้ง BCI เพื่อแก้ไขข้อจำกัดของการให้บริการหนังสือค้ำประกัน (Letter of Guarantee หรือ LG) ที่เดิมออกในรูปแบบ กระดาษ ซึ่งใช้เวลานานและมีโอกาสเกิดทุจริตได้ง่าย โดย BCI ได้นำเทคโนโลยี Blockchain ที่มีจุดเด่นในด้าน ความโปร่งใสและการป้องกันการลักลอบแก้ไขข้อมูลมาประยุกต์ให้สามารถทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ ของธนาคารที่เป็นสมาชิกของ BCI ซึ่งช่วยลดระยะเวลาการขอ LG จาก 3-7 วัน เหลือเพียงไม่เกิน 1 ชั่วโมง รวมทั้งลูกค้าที่เป็นองค์กรสามารถบริหารจัดการ LG ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

โครงการนี้มีผู้ใช้บริการมากขึ้น โดยปัจจุบันมีหนังสือค้ำประกันในระบบ e-LG กว่า 1 แสนรายการ มูลค่ารวมกว่า 2 แสนล้านบาท ส่วนสมาชิกของ BCI มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ 19 แห่ง หน่วยงานภาครัฐ 3 แห่ง หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ 4 แห่ง และองค์กรภาคเอกชนกว่า 170 ราย โดย Platform ของ BCI มีศักยภาพที่จะรองรับ use cases อื่น ๆ ที่หลากหลายในอนาคต และสามารถพัฒนา เป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานของภาคการเงินต่อไปได้ ซึ่งจะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของภาค ธุรกิจและประเทศไทย

ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการประยุกต์ใช้Blockchain สำหรับโครงการดังกล่าว ธนาคารที่เข้าร่วม ทดสอบและ BCI ต้องผ่านการประเมินภายใต้Regulatory Sandbox ของ ธปท.อย่างเข้มข้นก่อน ทั้งเรื่อง การกำกับดูแลโครงการ เสถียรภาพของเทคโนโลยี รวมถึงความปลอดภัยด้าน IT จนมั่นใจได้ว่าพร้อมให้บริการ ในวงกว้างได้อย่างแท้จริง ขณะเดียวกัน ธปท. ก็ได้นำองค์ความรู้ที่ได้รับจากการทดสอบโครงการดังกล่าวมา เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาแนวปฏิบัติเรื่องการใช้เทคโนโลยี Blockchain สำหรับการให้บริการทางการเงิน เพื่อให้ผู้ให้บริการที่ประสงค์นำ Blockchain มาใช้ให้บริการทางการเงินในอนาคต สามารถนำไปใช้อ้างอิงต่อไปได้

ที่มา – https://www.bot.or.th/Thai/PressandSpeeches/Press/News2565/n5965t.pdf

Related posts