โตเกียว/ฮ่องกง — Animoca Brands กลุ่มเกมบล็อกเชนในฮ่องกง วางแผนที่จะเปิดตัวกองทุนมูลค่าสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์เพื่อลงทุนในธุรกิจ metaverse ตามคำกล่าวของ Yat Siu ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทและประธานบริหาร

Animoca เป็นที่รู้จักจากเกม metaverse ของ Sandbox ที่ให้ผู้ใช้ซื้อที่ดินดิจิทัลและตกแต่งโดยใช้โทเค็นที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ (NFT) ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทหนึ่งที่ซื้อขายบนบล็อกเชน นักลงทุนของ Animoca ได้แก่ Temasek กองทุนของรัฐของสิงคโปร์ GGV Capital ของสหรัฐอเมริกา และ Mirae Asset Management ของเกาหลีใต้ และมีมูลค่ามากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ ณ การระดมทุนครั้งล่าสุด

ในการให้สัมภาษณ์กับ Nikkei Asia ในโตเกียว Siu กล่าวว่า บริษัท วางแผนที่จะเปิดตัวกองทุนที่เรียกว่า Animoca Capital โดยคาดว่าจะมีการลงทุนครั้งแรกในปีหน้า

“เรากำลังคิดเกี่ยวกับกองทุน [ซึ่งตอนนี้] กำลังก่อตัวขึ้น” ประธานกล่าว เป้าหมายของกองทุนคือ 1 พันล้านถึง 2 พันล้านดอลลาร์ แม้ว่า Siu กล่าวว่ายังไม่ได้ระดมเงิน Siu และหุ้นส่วนผู้จัดการกองทุนของเขาจะดูแลบัญชี

metaverse หมายถึงพื้นที่เสมือนจริงที่ผู้ใช้สามารถโต้ตอบและแลกเปลี่ยนสินค้าที่คล้ายกับโลกแห่งความจริง ธุรกิจจำนวนมากกำลังเข้าสู่ metaverse เพื่อคว้าโอกาสในการเติบโต

“โฟกัสจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับสิทธิ์ในทรัพย์สินทางดิจิทัล” Siu กล่าวโดยอ้างถึงธุรกิจ “NFT metaverse” และ “open metaverse” เขาเสริมว่าจะไม่มีข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์สำหรับเป้าหมายการลงทุน

Animoca ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 และได้รับการมองว่าเป็นผู้บุกเบิกของ Web3 ซึ่งเป็นภูมิทัศน์อินเทอร์เน็ตแบบกระจายอำนาจที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน บริษัทได้ลงทุนในธุรกิจ Web3 ประมาณ 380 รายการ เช่น แพลตฟอร์มตลาดรอง NFT อย่าง OpenSea และ Dapper Labs

อย่างไรก็ตาม Siu กล่าวว่าจุดประสงค์หลักของการลงทุนเหล่านี้คือเพื่อ “พัฒนาระบบนิเวศ” ของ Web3 และสร้างตลาดที่คึกคักมากกว่าที่จะแสวงหาผลตอบแทน

เมื่ออุตสาหกรรมเติบโตมากขึ้น Siu รู้สึกว่าจำเป็นต้องมีเครื่องมือการลงทุนแยกต่างหากเพื่อติดตามประสิทธิภาพเงินทุน “กองทุนจะมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพส่วนทุน” เขากล่าว “ในฐานะกองทุน คุณปรับผลตอบแทนให้เหมาะสม ดังนั้นมันจึงแตกต่างออกไป”

Siu กล่าวว่ากองทุนจะสร้างโอกาสมากขึ้นสำหรับนักลงทุนในการเข้าถึงบริษัท Web3 นักลงทุน Animoca บางรายเคยแสวงหาความเสี่ยงจากบริษัทในพอร์ต แต่ตอนนี้ต้องการการลงทุนโดยตรงมากขึ้น เขากล่าว “พวกเขาต้องการเปิดรับโดยตรงจากบริษัทระดับกลางถึงระดับปลาย และนี่คือบทบาทของกองทุน”

เขากล่าวว่ากองทุนที่วางแผนไว้จะเป็น “จุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับธุรกิจ Web3 “สำหรับนักลงทุนแบบดั้งเดิมจำนวนมาก การลงทุนในการเติบโต [ระยะ] ไปสู่ระยะสุดท้ายนั้นปลอดภัยกว่า มันแตกต่างจากการลงทุนในสตาร์ทอัพระยะเริ่มต้นซึ่งมีความเสี่ยงสูงกว่ามาก”

แม้จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกและความวุ่นวายในภาคสกุลเงินดิจิทัล รวมถึงการล่มสลายของ FTX ซึ่งเป็นหนึ่งในชื่อที่ยิ่งใหญ่ที่สุด Animoca ก็ดึงดูดนักลงทุนได้ ประกาศระดมทุน 358 ล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคม และอีก 110 ล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายน

“แน่นอนว่ามันท้าทายกว่าเดิม” เขากล่าวถึงสภาพแวดล้อมการระดมทุน “[แต่] ในทางกลับกัน ฉันคิดว่ามันไม่สามารถแข่งขันได้เหมือนเมื่อก่อน … ในตลาดหมี สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นคือการมุ่งความสนใจไปที่ผู้นำตลาด”

สำหรับความล้มเหลวของอุตสาหกรรมคริปโตเมื่อเร็วๆ นี้ Siu กล่าวว่า Animoca จะบริจาคเงิน 10 ล้านดอลลาร์ให้กับโครงการ Web3 Industry Recovery Initiative ที่นำโดย Binance “เพื่อสนับสนุนระบบนิเวศ” เขากล่าวว่าบริษัทของเขาอาจเพิ่มผลงานขึ้นอยู่กับสถานการณ์

Siu กล่าวว่าอุตสาหกรรม crypto จะฟื้นตัวและสังเกตว่ายูทิลิตี้พื้นฐานของภาคส่วนนั้นไม่ได้อ่อนแอลง “ผู้คนจำนวนมากเข้าร่วม crypto ทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกม” เขากล่าว และเสริมว่าคนเหล่านั้นแตกต่างจากนักลงทุน crypto ที่เก็งกำไร

ในขณะเดียวกัน กองทุนการลงทุนที่วางแผนไว้จะเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำหรับ Animoca เพื่อไปสู่เป้าหมายระยะยาว “เป้าหมายระยะยาวสำหรับเรา และตรงไปตรงมาสำหรับตัวฉันเอง คือการสร้างแนวทางที่เราทุกคนมีสิทธิ์ในทรัพย์สินทางดิจิทัล” เขากล่าว “ฉันหวังว่าสิ่งนี้จะผลักดันสถานการณ์ที่ทรัพย์สินดิจิทัลจะได้รับการยอมรับเช่นเดียวกับทรัพย์สินทางกายภาพในระบบกฎหมาย”

Animoca จดทะเบียนครั้งแรกในตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลียในปี 2558 แต่ถูกเพิกถอนในปี 2563 โดยตลาดอ้างว่าไม่ปฏิบัติตามกฎ

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับแผนการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต Siu กล่าวว่า “เราจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อย่างแน่นอน แต่ไม่ใช่เร็วๆ นี้ ไม่ใช่ในตลาดนี้” เขาบอกว่าเขาจะพิจารณา “ตัวเลือกทั้งหมด” ว่าจะลงรายการที่ใด