CEO Defiไทยชื่อดังอย่าง Dopple Finance แจงยาว หลังนักลงทุนพบมีความปกติในการโยกเงินในช่วงที่ผ่านมา

CEO Defiไทยชื่อดังอย่าง Dopple Finance แจงยาว หลังนักลงทุนพบมีความปกติในการโยกเงินในช่วงที่ผ่านมา

ข่าวสาร
November 16, 2022 by Cryptocamping
news123

หลังจากนักลงทุนหลายคนพบมีการโอนเงินของ Dopple Finance ประมาณ 194,000$ ไปที่ Binance Hot wallet ทำให้เกิดข้อถกเถียงถึงความโปร่งใสในการโยกเงินดังกล่าว

Ceo Dopple Finance ได้ชี้แจงผ่าน Facebook ส่วนตัว ในวันที่ 13 พค 65 ว่า วันนี้จะเล่าเรื่องเส้นทางพัฒนา Dop Chain หลังจากเคยมีความตั้งใจ ว่าจะไม่สื่อสารเรื่องงาน ในบัญชีส่วนตัวนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่แหกกฏตัวเอง หลังจากมีคนกล่าวหาผิดๆ หลังจากปีกว่า ที่เริ่มลุยเรื่องเชนแบบจริงจัง คาดว่าอีกไม่กี่วัน น่าจะปล่อย public testnet ได้ครั้งแรกสุดที่อยากทำเรื่องเชน คือไม่ไหวกับ Ethereum เรารู้ว่าทั้ง ETH และ BSC ไกล้ที่จะถึงขีดจำกัดมากแล้ว เรื่อง ETH คนส่วนมากอาจจะเข้าใจแล้วมันเวลา Gas war เกิดขึ้นมาที่ transaction fee จะพุ่งขึ้นไปเป็นร้อยเท่า คุณอาจจะต้องจ่ายค่า transaction หลายพันบาท เป็นตัวเลขที่ไม่ใช่สุลต่านยังไงก็ไม่ไหวส่วน BSC เป็นปัญหาที่ต่างออกไป throughput ของ BSC สูงกว่ามาก ยังไงเสียก็รับ User ได้เยอะกว่า แต่เมื่อมาถึงจุดหนึ่ง มันก็ถึงจุดที่ต่อให้เป็น BSC ก็ไม่ไหวอีกต่อไป Gas war ย่อมๆ เกิดขึ้นเมื่อราวกลางปี 2021 ก่อนที่ตลาดคริปโตจะซบเซา ทำให้ BSC มีเวลาได้พักหายใจ พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรอรับตลาดรอบหน้า เพื่อให้ไปต่อได้ ยังไง BSC ก็ต้องหา Scaling SolutionDop Chain Version แรกเริ่มเมื่อปลายปี 2021 ตอนนั้นเทคโนโลยีที่ใช้ คือทำ Execution Layer บน Solana เพื่อให้รองรับ Solidity Smart Contract เนื่องจาก Developer ส่วนใหญ่ สามารถ port งานที่อยู่บนเชนอื่นมาทำงานได้เลย Dop Chain Version แรก เราดันไปได้ถึง 125,000 TPS ทิ้งห่างทุกๆ EVM แบบไม่เห็นฝุ่น ในทางทฤษฏีแล้ว เราเร็วได้มากเท่าที่ Solana เร็วได้ เคยมีคนดัน SOL ไป 3,000,000 TPS มาแล้ว ดังนั้นเอาจริงเราก็ยังเร็วได้อีกแต่ปัญหาก็คือ ถ้าเชนเร็วขนาดนั้น Data จะจัดการยังไง Solana ใช้วิธี prune data ที่เก่ากว่า 6 เดือนออกดังนั้นในเชนจะมา data ใหม่ๆ เท่านั้นรู้สึกว่าไม่เข้าท่าเลย ก็เลยพับโครงการ หา Solution ใหม่งั้นลอง Solution อื่นไปศึกษา Layer 2 ดูว่าเป็นไงบ้าง ไปขุดมาดูแบบละเอียด ตั้งแต่ Plasma, Optimistic Rollup, ZK Rollup, Optimistic Chain ว่าแต่ละเจ้า Implement ยังไง แนวคิดการออกแบบ ปัญหาที่พยายามแก้ แนวคิดเบื้องหลัง ข้อดีข้อเสียยังไง ไปไล่ดู Timeline ของ Founder แต่ละ Project ว่าแนวคิดของเค้าคืออะไร พอดูไปเรื่อยๆ ก็พบว่าแต่ละเจ้ามาแบบไม่มีทรงทั้งนั้นเลย ทุกคนใหม่มากกับแนวคิด มีการปะผุโค้ดมาทุกเจ้า เปลี่ยนแนวคิด เปลี่ยนไอเดียในการออกแบบเยอะมากเพราะพอลงมือทำจริงแล้ว ก็เจอปัญหาให้แก้แตกต่างกันไปเริ่มจาก Optimistic Rollup ตอนแรกที่เห็นไอเดียนี้ ก็ไม่ได้เข้าใจจริงๆ ว่ามันคืออะไร คุยกับ ETH Maxinalist ท่านนึง พยายามชวนมาตั้งแต่เมื่อสองสามปีก่อน ตอนนั้นถ้าเข้าใจกว่านี้ น่าจะทำอะไรบนนี้มานานแล้ว ไอเดียของ Optimistic Rollup คือ ทุกคนทำ transaction แล้วเดี๋ยวช่วยกันออกค่าแก๊ส เอาไปส่งบน Ethereum พร้อมๆ กัน เรียบง่าย ทรงพลัง หัวหอกของฝั่งนี้คือ Arbitrum กับ Optimism แข่งกันอยู่ Arbitrum ออกของไวกว่า แต่ Optimism มือ Ethereum Foundation หนุนหลัง สองเจ้ากินส่วนแบ่งบน Layer 2 อยู่ 9x% แทบจะกินรวบทั้งตลาดแล้ว ข้อเสียคือ แม้ว่าจะถูกลง แต่ก็ยังแพงอยู่ดี เพราะทุก transaction ก็เป็น transaction อยู่บน Ethereum ส่วน Data availability layer อยู่บน Ether หมด ต่อให้เชนล่มไป ก็แงะเอา data มาจาก Ethereum ได้ แล้วไปต่อได้อยู่ดี Optimism จ่ายค่าแก๊สบน Ethereum เฉลี่ยวันละ $15,000 USD ถ้าจะทำแข่งคือมึงต้องรวยมากๆ เพราะช่วงแรกๆ ไม่มีคนบนเชนมากพอ มึงขาดทุนยับแน่ๆ เหมือนเผารถ eco-car ทิ้งวันละคัน ดังนั้นทางนี้ลืมไปได้เลยส่วน ZK Rollup ตอนนี้มีหลายคนหลายเทคโนโลยี หลักการคือแทนที่จะส่ง Transaction ทั้งหมดไปเก็บบน Ethereum ส่งไปแค่ ZK Proof ก็พอ ขนาด transaction บน Ethereum จึงเล็กว่ามาก แต่ด้วยความซับซ้อนของเทคโนโลยี ทำให้เชนที่ออกมาระดับ Production มีแต่เชนเฉพาะทาง ตัวที่เป็นเป็น Universal ตอนนี้นำอยู่มี ZKSync กับ ZKBNB ของ BNBChain ปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกคือ Performmance ของเชน เนื่องจากตัว ZK Proof นั้นมีการคำนวนหนักๆ ไม่น่าจะดันไปได้ไกลเท่าไร เว้นเสียแต่ว่าจะทำแบบ Binance คือเฉพาะพวกกันเองที่จะรันโหนดได้ คนอื่นช่างแม่ง เน้นเครื่องแรงไว้ก่อนอันท้ายสุดคือ Optimistic Chain ตอนนี้มีเรือธงสองเจ้า คือ Metis กับ Arbitrum Nova เกิดจากไปเดียที่ว่า ในเมื่อ Data บน Ethereum มันแพง ส่งเฉพาะ proof ขึ้นไปแทนก็แล้วกัน จะได้ประหยัด ตอนแรกสุด Metis ไปลอกมาจาก Optimism แต่น่าจะแบกค่าแก๊สไม่ไหว ก็เลยเปลี่ยนมาทางนี้แทน ส่วน Arbitrum ก็คงไม่อยากจ่ายค่าแก๊สมหาศาลให้ Ethereum เหมือนกัน ก็เลยมาทางนี้ ข้อดีคือถูกสุด แรงสุด ข้อเสียคือ Data Avalibility มัน off-chain เพราะต้องทำ Distributed Data Layer ขึ้นมาเองนอกจากหลักๆ พวกนี้ ก็มีรายอื่นๆในตลาด อย่างพวก Boba และ Fuel ที่เลือกจะทำตัวเป็น Execution Layer อย่างเดียว แล้วโยน Data ไป Layer 1หลักจากเห็นข้อดีข้อเสีย ขบคิดมาหลายเดือนว่าทำยังไง ให้ scale ได้แล้วยังราคาถูกพอที่จะทำได้ โดยไม่ล้มละลายไปก่อน เมื่อหลายเดือนก่อนก็ได้ไอเดีย ทำ Hybrid Optimistic Rollup พอจะเคลมได้ว่าเป็นเจ้าแรกๆ ที่เลือกจะ Implement ด้วยวิธีนี้ หลักการคือ แทนที่จะส่งทุกอย่างไปทีเดียว เราแยกส่วนเพื่อ Optimize ค่าแก๊สได้ โดยส่ง Proof ไป Ethereum เหมือน Optimistic Chain ส่วน Data ที่ Rollup ส่งไปเก็บในเชนที่ราคาถูกกว่า กลายเป็นว่าตอนนี้ Dopple Chain จะไม่ใช่แค่ Layer 2 ของ BNB แต่จริงๆแล้วคือ Layer 2 ของทั้ง Ethereum และ BNB พร้อมๆ กัน ถูกกว่า Optimistic Rollup แต่ขัวร์กว่า Optimistic Chainกระบวนการพัฒนาเริ่มมาหลายเดือนแล้ว ตามกำหนดการเดิมเลยคือ Testnet น่าจะพร้อมปลายปี พอมั่นใจแล้ว mainnet จะตามมาทีหลัง ตอนนี้ Multisig Account ถูก Setup ขึ้นมา เพื่อเตรียมพร้อมในการรันเชน ไอเดีย Hybrid Optimistic Rollup ไม่จำเป็นต้องอยู่แค่สองเชน ท้ายที่สุดแล้วอาจจะมีมากกว่านี้ Dopple DAO เป็นคนตัดสินใจ ว่า Chain จะไปทางไหน กำลังหาสัดส่วนที่คิดว่ามีคนบ่นน้อยสุด เพราะว่ามีทั้ง Dopple ทั้ง Twindex holder รอดูอยู่ ความซวยคือในจังหวะที่ตลาดกำลังฟื้น ทิศทางกำลังดี ทุกอย่างที่เดรียมมาไว้หลายเดือนกำลังพร้อม FTX เสือกมีเรื่องฉุดทุกอย่างลงก่อนหน้านี้พยายามเงียบๆ นั่งทำงานอย่างอดทน คนก็บอกหนีไปแล้วไม่ทำงานแล้ว พอออกมาบอกก่อนว่าไกล้เสร็จแล้ว ก็โดนหาว่าเงินหมดแล้ว มาปั่นมากาวหลอกเอาเงินคน พอทำ multisig พอ Setup DAO ก็โดนกล่าวหาว่ามุบมิบเงิน ทั้งๆ ที่มีความสามารถอ่านว่าเงินออกทางไหนแต่แกล้งทำเป็นไม่เห็นว่าเงินไปทางไหน เหมือนจงใจจะเล่าบางส่วนก็พอ กับอีกพวกคือพอบอกว่าจะทำ ก็ออกมาปั่นกันเอง หลอกพวกเดียวกันไปซื้อ แล้วก็เทขายใส่พวกเดียวกันเองนี่แหละ เสร็จแล้วก็โยนขี้ ไอ้โกวิทหลอกเงินมึงไปแล้ว แทงกันเองแท้ๆ หลังจากนี้ ถ้ายังมีคนมากล่สวหาแบบนี้อีก คงต้องใช้กฏหมายจัดการ เหมือนกับพวกชุดก่อนหน้านี้ที่โดนไปแล้ว ถ้ามั่นใจก็ลองได้

ที่มา : https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02uiPKJTqjzWWddRehTkc5FcVnQdqAixFVJzBQEt1GPa2y7ZSLZUbmF7Z8CQc3swrel&id=578152331

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Related posts