เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายจากโปรเจกต์ Crypto Ronin NFT ได้รวมตัวกันเข้าแจ้งความกับทางตำรวจ โดยเรื่องราวเหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นในปี 2565

Special NFT สามารถนำไปใช้เล่นเกมของบริษัทฯ เผื่อสร้างรายได้ต่าง ๆ ภายในเกมได้ (Play to earn) ซึ่งเกม Crypto Ronin NFT มีกำหนดเปิดให้เล่นภายในไตรมาส 2 ของปี 2565 ทว่าหลังจากถึงช่วงเวลาที่กำหนด นักลงทุนที่ซื้อ NFT ของโปรเจกต์นี้กลับไม่สามารถเล่นเกมดังกล่าวได้

ในระหว่างที่กลุ่มนักลงทุนเริ่มไม่พอใจนั้นเอง ทางทีมงานของโปรเจกต์ Crypto Ronin NFT ได้ชี้แจงว่า “ระหว่างนี้สามารถเข้าไป Stake NFT เพื่อรับเหรียญ SR ได้” ซึ่งตัวแทนผู้เสียหายระบุว่าในขณะนั้นไม่ได้ติดใจอะไร เนื่องจากเป็นปัญหาที่รับฟังได้ โดยหลังจากเกิดเหตุการณ์ทัวร์ลงได้ไม่นาน คุณปลื้ม VRZO จึงได้จัดทำ AMA เพื่อพูดคุยกับนักลงทุนเกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ

เอกสารการแจ้งความของตัวแทนผู้เสียหาย ระบุว่าเมื่อครบกำหนดในเดือนสิงหาคม 2565 นักลงทุนยังคงไม่สามารถเข้าไปเล่นเกมได้ ยิ่งไปกว่านั้น ทีมงานของทางโปรเจกต์เกมที่มีหน้าที่สื่อสารกับนักลงทุนได้ทำการลบ Line Openchat ซึ่งก่อนหน้านี้ใช้เป็นช่องทางในการพูดคุยกับนักลงทุน โดยให้เหตุผลว่าจะย้ายไปพูดคุยใน Discord แทน

ในช่วงแรกที่มีการเปลี่ยนช่องทางการสนทนานั้น ยังมีทีมงานเข้ามาพูดคุยกับนักลงทุนตามปกติ ทว่าหลังจากนั้นทีมงานก็เริ่มขาดการติดต่อไป อีกทั้งนักลงทุนยังไม่สามารถติดต่อกับทางทีมงานจากช่องทางอื่น ๆ ได้

ดังนั้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 นักลงทุนรายหนึ่งจึงได้ติดต่อกับทางบริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด เพื่อร้องขอให้ Bitkub เป็นคนกลางในการเจรจากับบริษัท วีอาร์โซ จำกัด สำหรับการขอคืนเงินแก่นักลงทุน ซึ่งในวันที่ 2 ธันวาคม ทาง Bitkub ได้ยืนยันรับทราบเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งยืนยันว่าโปรเจกต์ดังกล่าวไม่ได้รับการรับรองจากทาง Bitkub Chain และจะนัดหมายกับคุณปลื้มเพื่อเจรจาแก้ไขปัญหาต่อไป

จนกระทั่งในวันที่ 27 ธันวาคม 2565 เพจ Facebook ของโปรเจกต์ Crypto Ronin NFT ได้ออกมาประกาศว่า “เปิดเกมให้เล่นในเฟสที่ 1 แล้ว” อย่างไรก็ตาม นักลงทุนกลับพบว่าเกมสามารถเล่นได้เพียงเล็กน้อย ไม่สามารถไปต่อได้ และเมื่อติดต่อทีมงานไปก็ไม่ได้รับการตอบกลับแต่อย่างใด

หลังจากนั้นทาง Bitkub ก็ได้ออกมาประกาศในวันที่ 4 มีนาคม 2566 ว่า “ถอดโปรเจกต์ NFT ‘Crypto Ronin’ จากการเป็น Registered Project”

ที่มา