Ethereum กำลังเผชิญแรงกดดันรอบด้าน หลังอัตราส่วน ETH/BTC ร่วงลงต่ำสุดในรอบ 4 ปี เหลือเพียง 0.022 สะท้อนความอ่อนแอเมื่อเทียบกับ Bitcoin และการสูญเสียพื้นที่ในตลาด Layer 1 ที่เคยเป็นผู้นำ โดยมูลค่า TVL ของ Ethereum ลดลงจาก 61.6% เหลือเพียง 52.5% ในเวลาไม่ถึง 2 เดือน ขณะที่ Solana, Binance Chain และ Avalanche พุ่งขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Solana ที่ส่วนแบ่งตลาดโตเกิน 2.5 เท่าในปีเดียว

แม้ Ethereum จะลดค่าธรรมเนียมได้อย่างมีนัยยะ แต่ความเร็วในการประมวลผลยังตามหลังคู่แข่ง เช่น Solana ที่ทำได้กว่า 4,000 TPS เทียบกับ Ethereum ที่เฉลี่ยเพียง 16 TPS ส่งผลให้นักพัฒนาและผู้ใช้จำนวนมากย้ายไปใช้งาน L2 แทน ซึ่งทำให้รายได้และค่าธรรมเนียมที่ควรเข้า mainnet หายไปมหาศาล และส่งผลต่อกลไก deflation ของ ETH โดยตรง

ขณะเดียวกัน กระแสเงินลงทุนใน Ethereum ETF ก็ลดลง และตลาดฟิวเจอร์สเริ่มเต็มไปด้วย short position ที่พุ่งขึ้นกว่า 500% นับจากปลายปี 2024 สะท้อนถึงความไม่เชื่อมั่นในราคาของ ETH ในระยะสั้น โดยนักวิเคราะห์หลายรายเตือนว่า หาก ETH ไม่สามารถกลับมายืนเหนือระดับ $2,150 ได้ อาจร่วงต่อไปทดสอบโซน $1,000 อีกครั้ง

แม้จะมีมุมมองบวกบ้างจากนักวิเคราะห์ที่เชื่อว่า ETH อาจมีแรงดีดกลับ หากตลาดโดยรวมฟื้นตัวและค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง แต่จนถึงตอนนี้ ทิศทางราคาของ Ethereum ยังถูกกดดันจากทั้งปัจจัยมหภาคและข้อจำกัดเชิงโครงสร้างในระบบนิเวศของตัวเอง