ตลท.ยกระดับปกป้องตลาดหุ้น! เคาะมาตรการเด็ดอุดการช็อตเซลล์ และ โปรแกรมเทรด พร้อมเพิ่มโทษถึง 3 เท่า

ตลท.ยกระดับปกป้องตลาดหุ้น! เคาะมาตรการเด็ดอุดการช็อตเซลล์ และ โปรแกรมเทรด พร้อมเพิ่มโทษถึง 3 เท่า

ข่าวสาร
February 22, 2024 by cryptocamping
Frame 1133 - 2024-02-22T145652.846

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ให้ความเห็นชอบมาตรการเพิ่มเติมเพื่อที่จะยกระดับการกำกับดูแลการขายช็อต และการใช้คอมพิวเตอร์ส่งคำสั่งซื้อขายหรือโปรแกรมเทรดดิ้ง พร้อมทั้งการปรับเพิ่มมาตรการการเปิดเผยข้อมูลแก่สาธารณชน

โดยนอกจากมีมาตรการที่จะนำมาบังคับใช้ และยังเพิ่มโทษให้กับผู้กระทำผิดโดยมีโทษปรับสูงสุดถึง 3 เท่า และพร้อมใช้ มาตรการหยุดการซื้อขายโดยอัตโนมัติ (auto halt) หากพบความผิดปกติ มีรายละเอียดดังนี้

1)  มาตรการกำกับดูแลการขายชอร์ต • การทบทวนคุณสมบัติของหลักทรัพย์ที่สามารถขายชอร์ตได้ (eligible securities) – เพิ่มขนาดมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดขั้นต่ำ (market capitalization) จากเดิม 5,000 ล้านบาท 
เป็น 7,500 ล้านบาท – เพิ่มข้อกำหนดเกี่ยวกับการพิจารณาสภาพคล่องของหุ้น โดยกำหนดให้หุ้นนั้นจะต้องมีสัดส่วนปริมาณการซื้อขายต่อเดือนเมื่อเทียบกับปริมาณหุ้นจดทะเบียน (monthly turnover) แล้วมากกว่า 2% • การควบคุมผลกระทบอันอาจเกิดการขายชอร์ต – ผลกระทบด้านราคา: กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการขายชอร์ตเพิ่มเติม สำหรับการขายชอร์ตเฉพาะกรณีที่ราคาหุ้นรายหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงมากกว่า 10% จากราคาปิดของวันก่อนหน้าโดยกำหนดให้ราคาขายชอร์ตต้องเป็นราคาที่สูงกว่าราคาล่าสุด (uptick rule)  – ผลกระทบด้านปริมาณการขายชอร์ต: เพิ่มการกำหนดเพดานสูงสุดในการขายชอร์ตรายหลักทรัพย์ใน
แต่ละวัน (daily limit) เพื่อที่จะควบคุมความเสี่ยงไม่ให้เพิ่มมากเกินไป รวมทั้งเพิ่มการเปิดเผยข้อมูลรายวันของยอดสะสมปริมาณการขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืน (outstanding) สำหรับแต่ละหลักทรัพย์ เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป • การเพิ่มการกำกับดูแลสมาชิกโดยเพิ่มบทระวางโทษปรับ กรณีพบการกระทำผิดเกี่ยวกับการขายชอร์ตจะกำหนดระวางโทษปรับที่จะลงต่อสมาชิกเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 3 เท่า ซึ่งเทียบเคียงได้กับแนวทางการลงโทษของตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำในต่างประเทศ นอกจากนี้ จะนำเสนอหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลในการพิจารณาแก้ไขกฏหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถลงโทษผู้ลงทุนที่เป็นผู้กระทำผิดได้โดยตรงด้วย • การพัฒนาระบบกลางเพื่อตรวจสอบหลักทรัพย์ จะจัดให้มีเป็นแหล่งข้อมูลกลางสำหรับสมาชิกและตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่จะใช้ในการตรวจสอบการมีอยู่ของหลักทรัพย์ของผู้ลงทุน เพื่อที่จะทำให้การกำกับดูแลการขายชอร์ตสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

2)  มาตรการการกำกับดูแล program trading เพื่อให้การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นไปอย่างเป็นระเบียบ (orderly) และป้องกันความผันผวนผิดปกติของราคา รวมถึงป้องปรามพฤติกรรมการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ไม่เหมาะสม รวมถึงสร้างความสมดุลระหว่างกลุ่มผู้ลงทุน จะยกระดับมาตรการกำกับดูแล program trading ดังนี้ • การป้องกันราคาผันผวนผิดปกติ – เพิ่มมาตรการควบคุมความผันผวนของราคารายหุ้นระหว่างวัน (นอกเหนือจากการกำหนด ceiling & floor ที่ใช้บังคับอยู่แล้วในปัจจุบัน) ด้วยการเพิ่มเพดานการเคลื่อนไหวของราคาระหว่างวัน (dynamic price band) ซึ่งจะเป็นกรอบของการเคลื่อนไหวของราคาที่แคบลงมาจาก ceiling & floor โดยกำหนดกรอบไว้เป็นเปอร์เซ็นต์ (เช่น +/- 10%) จากราคาซื้อขายล่าสุด ซึ่งหากถึงระดับราคาดังกล่าวก็จะหยุดพักการซื้อขายชั่วคราวก่อนเปิดซื้อขายใหม่ – กรณีที่ราคาหุ้นมีความผันผวนมาก อาจพิจารณาปรับเปลี่ยนวิธีการซื้อขายของหุ้นที่อยู่ในมาตรการกำกับการซื้อขายเป็นแบบ call auctionแทน • การกำกับดูแลพฤติกรรมการซื้อขายที่ไม่เหมาะสม – ปรับปรุงเกณฑ์เกี่ยวกับคำสั่งไม่เหมาะสม โดยจะเพิ่มลักษณะของคำสั่งซื้อขายที่มีผลกระทบต่อตลาดทั้งในเชิงปริมาณและราคา รวมทั้งจัดทำระบบกลางในการคัดกรองคำสั่งซื้อขายที่ไม่เหมาะสม (order screening) 
ซึ่งจะรวมถึงการป้องกันไม่ให้มีการใส่ถอนคำสั่งซื้อขายที่ถี่จนเกินไป ด้วยการกำหนดระยะเวลาขั้นต่ำของคำสั่งที่ส่งเข้ามาก่อนที่จะสามารถยกเลิกคำสั่งนั้นได้ (minimum resting time) เช่น อาจจะต้องคงไว้อย่างน้อย 0.6 วินาที เป็นต้น – ใช้มาตรการหยุดการซื้อขายโดยอัตโนมัติ (auto halt) เป็นรายหุ้น หากพบว่า มีการซื้อหรือขายหุ้นนั้นรวมกันในปริมาณที่มากเกินกว่าระดับที่กำหนด เพื่อป้องกันการจับคู่ของคำสั่งซื้อขายที่อาจผิดปกติ • การยกระดับการกำกับดูแลผู้ลงทุนที่ส่งคำสั่งด้วยความเร็วสูง (HFT) – จะเพิ่มความเข้มงวดของการกำกับดูแลกลุ่มผู้ลงทุนประเภทนี้ เช่น ต้องมีการแจ้งหรือขึ้นทะเบียน (register) พร้อมทั้งให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลการซื้อขายของผู้ลงทุนกลุ่มนี้

3)  การปรับปรุงเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูล:  • การเปิดเผยข้อมูลรายชื่อผู้ลงทุนที่มีพฤติกรรมการส่งคำสั่งซื้อขายไม่เหมาะสมให้แก่บริษัทสมาชิกทุกราย เพื่อให้บริษัทสมาชิกใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาดำเนินการกับผู้ลงทุนรายนั้น เช่น ปรับลดวงเงิน กำหนดให้ต้องซื้อขายผ่านผู้แนะนำการลงทุน (trader) เป็น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการส่งคำสั่งซื้อขายที่ไม่เหมาะสม  • การปรับปรุงเกณฑ์การเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นให้ครอบคลุมถึงกรณีการถือในรูปแบบ NVDR ด้วยโดยกำหนดให้บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด (ในฐานะผู้ออก NVDR) จะต้องเปิดเผยรายชื่อผู้ถือNVDR ตั้งแต่ 0.5% แต่ไม่น้อยกว่า10 ราย เช่นเดียวกับการเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียน เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลผู้ที่มีการถือครอง NVDR และเพื่อให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนมากขึ้น

นอกจากนี้ คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังได้เห็นชอบให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ เร่งดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวข้างต้นโดยเร็ว และในขั้นตอนต่อไป ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะดำเนินการจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น (hearing) จากผู้เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งจะนำไปปรึกษาหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) อย่างใกล้ชิด ก่อนที่จะนำเสนอต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อพิจารณาอนุมัติ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมายที่กำหนดไว้

Related posts