ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศผลการดำเนินงาน พบว่า งวดไตรมาส 3/65 มีกำไรสุทธิ 4.64 ล้านบาท ลดลง 86.67% จากไตรมาส 2/65 และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนลดลง 95.49% แม้รายได้จะเพิ่มขึ้น +38.81% แต่ต้นทุนเหมืองพุ่งสูง +4,225% เนื่องจากเป็นช่วงของการลงทุนเครื่องขุด

โดยไตรมาส 3/65 บริษัทมีรายได้รวม 691.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +28.76% จากไตรมาส 2/65 ที่มีรายได้ 536.75 ล้านบาทและเพิ่มขึ้น +38.81% จากไตรมาส 3/64 ที่ทำได้ 497.90 ล้านบาท

รายได้บริษัทฯ ครอบคลุมถึงธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ แต่ธุรกิจนี้ยังนำส่งรายได้ไม่มากนัก ข้อมูลในรายงานแสดงตัวเลขอยู่ที่ 56.03 ล้านบาท (รายได้ส่วนใหญ่ ยังคงมาจากธุรกิจให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม) เพิ่มขึ้น +138.83% จากไตรมาส 2/65 ที่ทำได้ 23.46 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น +1,227.73% จากไตรมาส 3/64 ที่มีรายได้จากธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ 4.22 ล้านบาท

บริษัทต้องเผชิญกับ “ต้นทุนเหมืองขุดบิตคอยน์” ที่เพิ่มขึ้น +4,225.13% จากไตรมาส 3/64 มาอยู่ที่ 161.70 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 158.02 ล้านบาทจาก 3.74 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/65 ต้นทุนเหมืองฯ เพิ่มขึ้น +152.51% จากระดับ 64.06 ล้านบาท

สาเหตุก็มาจากการลงทุนเครื่องขุดบิตคอยน์เพิ่มจาก 110 เครื่องเป็น 2,037 เครื่อง และต้นทุนที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งเกิดจากการบันทึกสำรองด้อยค่าสินทรัพย์ในธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ ตามมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 36 เรื่องการด้อยค่าสินทรัพย์ จำนวน 68.94 ล้านบาท จึงส่งผลให้ไตรมาส 3/65 บริษัทฯ ทำกำไรสุทธิได้เพียง 4.64 ล้านบาท หรือลดลง 86.67% จากไตรมาส 2/65 และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนลดลง 95.49%

หากไม่รวมการด้อยค่าสินทรัพย์ในธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ JTS เผยว่า บริษัทฯ จะมีกำไรสุทธิจำนวน 72.96 ล้านบาท และยืนยันจะยังคงลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ ตามแผนการลงทุนในระยะยาว ที่ได้กำหนดไว้ด้วยความระมัดระวังรอบคอบ ถึงแม้ว่าผลตอบแทนจากการลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดฯ ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากราคาบิตคอยน์ มีความผันผวน