ก.ล.ต. สุดฟิตยกเครื่องเกณฑ์กำกับ SET ตั้งแต่ IPO ยันเพิกถอน หวังปราบทุจริต
เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กล่าวในงาน Media Briefing “เกาะติดภารกิจ ก.ล.ต. ป้อง ปราม ปราบ ยกระดับ บจ.เข้มแข็ง” ว่า ตามที่ได้มีการประกาศแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. มุ่งสร้างความเชื่อมั่นและเชื่อถือ ให้กลับมาสู่ตลาดทุนไทยโดยเร็ว
ซึ่งบอร์ด ก.ล.ต.ก็ได้มีมติเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งองคาพยพตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เสนอแล้ว
สำหรับเกณฑ์ใหม่เข้า SET กำหนดจะต้องมีกำไรมากกว่า 75 ล้านบาท (เดิม 30 ล้านบาท) ต้องมีส่วนผู้ถือหุ้นหลัง IPO มากกว่า 800 ล้านบาท (เดิม 300 ล้านบาท) และมากกว่า 100 ล้านบาท (เดิม 50 ล้านบาท) และกำไร 2-3 ปีล่าสุดเข้า SET ต้องมีมากกว่า 125 ล้านบาท (เดิม 50 ล้านบาท) ขณะที่ทุนชำระแล้วหลัง IPO ในการเข้า SET ปรับลดเหลือ 100 ล้านบาท (เดิม 300 ล้านบาท)
ในส่วน mai ต้องมีกำไรมากกว่า 25 ล้านบาท (เดิม 10 ล้านบาท) และกำไร 2-3 ปีล่าสุด มากกว่า 40 ล้านบาท (เดิมไม่กำหนด) ขณะที่ทุนชำระแล้วหลัง IPO ในการเข้า mai กำหนดไว้ที่มากกว่า 50 ล้านบาท ทั้งนี้กำหนดให้เริ่มมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค. 2568
และจะปรับปรุงกฎเกณฑ์กระบวนการพิจารณาคุณสมบัติของบริษัทที่จะจดทะเบียนโดยอ้อม (Backdoor Listing) และการย้ายกลับมาซื้อขาย (Resume Trade) ให้มีความเข้มข้นเทียบเท่ากับการเสนอขายหุ้น IPO รวมถึงการยกระดับการแจ้งเตือนผู้ลงทุน และการเพิกถอนบริษัทที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 เม.ย. 2567
รวมทั้งจะให้มีการเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นและผู้ถือหน่วยสำหรับบริษัทจดทะเบียน ทรัสต์ กองทุนต่าง ๆ จาก 10 รายแรก เพิ่มเติมรายที่ถือตั้งแต่ 0.5% ของทุนที่ชำระแล้ว/จดทะเบียน ก็ต้องมีการเปิดเผยข้อมูลด้วย ซึ่งเรื่องนี้ดำเนินการได้เร็ว โดยจะให้มีผลบังคับใช้วันที่ 1 มี.ค. 2567