วิเคราะห์สาเหตุต่างชาติเทขายหุ้นไทยครึ่งปีแรก 2567 ทะลุ 1 ล้านล้านบาท

วันที่ 20 มิถุนายน 2567 นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าทีมกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยถึงปรากฏการณ์ที่น่าตกใจในตลาดหุ้นไทย นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยกว่า 1 ล้านล้านบาทในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 ทำให้เกิดความผันผวนอย่างมากในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สาเหตุหลักที่ทำให้ต่างชาติเทขายหุ้นไทย
นายสรพลชี้ว่า มี 4 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติเกิดความกังวลและขายหุ้นไทยออกมา:
1. การเติบโตของ GDP ที่ชะลอตัว: ประเทศไทยติดกับดักโครงสร้างการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยเพียง 2-3% ต่อปี และมีการปรับคาดการณ์ลงต่อเนื่องทุกไตรมาส
2. กำไรต่อหุ้น (EPS) ต่ำ: กำไรต่อหุ้นที่ทำได้ในแต่ละไตรมาสไม่เกิน 200,000 บาท หรือคิดเป็นปีไม่เกิน 1 ล้านล้านบาท ถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่น ๆ
3. ภาคการเกษตรที่ฟื้นตัวยาก: ภาคการเกษตรไทยยังคงมีปัญหาและฟื้นตัวยาก ทำให้ขาดการสนับสนุนจากภาคส่วนนี้ในการเติบโตของเศรษฐกิจ
4. สถานการณ์ความไม่สงบทางการเมือง: ความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ ทำให้ต่างชาติมองว่าตลาดหุ้นไทยยังไม่สามารถฟื้นตัวได้ในระยะสั้น
กลุ่มหุ้นที่น่าลงทุนในครึ่งปีหลัง
แม้ว่าสถานการณ์ในครึ่งปีแรกจะไม่ดีนัก แต่นายสรพลมองว่าในครึ่งปีหลังยังมีโอกาสในการลงทุน โดยเฉพาะหุ้นที่มีสัดส่วนการเชื่อมโยงกับตลาดต่างประเทศน้อย ซึ่งประกอบด้วย:
– กลุ่มส่งออก: ซึ่งมีการเติบโตสูงและได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจภายในประเทศน้อย
-กลุ่มโรงกลั่น: เช่น TOP และ SPRC ที่สามารถเติบโตได้ดีจากความต้องการในตลาดโลก
– กลุ่มเดินเรือ: ที่ได้รับประโยชน์จากการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ
มาตรการที่จะช่วยพยุงตลาดหุ้นไทย