ตลท.กุมขมับ เตรียมยกระดับการกำกับดูแลบจ. ทั้งกระบวนการ ยกระดับการกำกับดูแล ทั้ง SET และ mai
21 มิ.ย. 66) คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมติเห็นชอบแนวทางให้ปรับ positioning เพิ่มความแตกต่างของบริษัทจดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และ ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)
โดยปรับปรุงเกณฑ์เครื่องหมาย “C (Caution)” เกณฑ์เพิกถอน ตลอดจนเกณฑ์ Backdoor Listing เพิ่มคุณภาพบริษัทจดทะเบียน และดูแลผู้ลงทุน พร้อมเปิดรับฟังความเห็นจากผู้เกี่ยวข้องภายในไตรมาส 3 ปีนี้ นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมติเห็นชอบแนวทางปรับปรุงหลักเกณฑ์สำหรับบริษัทจดทะเบียนใน SET และ mai ทั้งกระบวนการ ซึ่งเป็นไปตามแผนกลยุทธ์
สรุปแนวทางการปรับปรุงเกณฑ์ ดังนี้ 1. การ repositioning SET และ mai โดยปรับปรุงคุณสมบัติบริษัทจดทะเบียนตามเกณฑ์รับหลักทรัพย์ใน SET และmai ซึ่งจะเพิ่มกำไรเพื่อรองรับบริษัทที่มีความสามารถในการทำกำไรที่สูงขึ้น และเพิ่มส่วนของผู้ถือหุ้น (Equity) เพื่อสะท้อนผลการดำเนินงานและฐานะการเงินที่แข็งแรงขึ้น โดยกำหนดทุนชำระแล้ว (Paid-up capital) เริ่มต้นเท่ากันเพื่อให้ส่วนของทุนมีความสอดคล้องกับลักษณะการประกอบธุรกิจ และบริษัทผู้ระดมทุนสามารถใช้ประโยชน์จากตลาดทุนได้มีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมทั้งเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free Float) และการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชน (Public Offering) สำหรับบริษัทขนาดเล็กให้สูงขึ้น เพื่อดูแลสภาพคล่องในตลาดรอง
2. การยกระดับการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียน ได้แก่ 2.1 เพิ่มการเตือนผู้ลงทุนด้วยเครื่องหมาย “C” กรณีบริษัทมีฐานะการเงินหรือผลการดำเนินงานที่มีแนวโน้มลดลงเช่น มีรายได้จากการดำเนินงานต่ำหรือขาดทุนต่อเนื่อง ผิดนัดชำระหนี้สถาบันการเงินหรือตราสารหนี้ และผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินในทุกกรณี เนื่องจากบริษัทที่ปัญหาด้านฐานะการเงินมักตามมาด้วยการเปลี่ยนแปลงสำคัญ เช่น ผู้ถือหุ้นหรือธุรกิจ หรือเป็นเป้าหมายของ Backdoor Listing รวมถึงอาจมีการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ผิดไปจากสภาพปกติ 2.2 เพิ่มความเข้มงวดในการเพิกถอน โดยคณะกรรมการจะพิจารณาเพิกถอนบริษัทที่ไม่สามารถแก้ไขเหตุเพิกถอนและย้ายกลับมาซื้อขายได้เมื่อครบกำหนดเวลา เพื่อให้มีบริษัทจดทะเบียนที่มีคุณภาพ อีกทั้งเพิ่มความเข้มข้นในการพิจารณาคุณสมบัติบริษัท Backdoor Listing โดยสำนักงาน ก.ล.ต. จะร่วมพิจารณาคุณสมบัติของบริษัทเช่นเดียวกับกรณี IPO เพื่อให้บริษัทที่เข้าจดทะเบียนไม่ว่าด้วยช่องทางใดมีคุณภาพใกล้เคียงกัน