โค้งสุดท้ายก่อนเข้าคูหา สำรวจนโยบายเทคโนโลยีจากพรรคการเมือง พรรคไหนชนะใจสาย crypto
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาเมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา และนำไปสู่การเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคมที่จะถึงนี้
วันนี้ crypto camping พาสำรวจนโยบายเทคโนโลยีของ 6 พรรคการเมือง
เริ่มด้วย 1. พรรคก้าวไกล นาทีนี้ร้อนแรงไม่หยุดกับด้อมส้ม ที่มีแคนดิเดตนายกอย่าง คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งได้เคยให้ความเห็นในเรื่องของการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนและ Crypto มาใช้ในการพัฒนาประเทศ โดยส่วนตัวมีความสนใจในบล็อกเชน Layer-2 ตัวใหญ่อยู่ 2-3 ตัว และสนใจที่จะนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้กับภาครัฐ โดยเขาได้เห็นกรณีตัวอย่างของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนกับการจัดการที่ดินของประเทศสวีเดน และสกุลเงินดิจิทัลหรือ Crypto ว่าสกุลเงินเหล่านี้ สามารถใช้ในการค้าขายระหว่างประเทศเพื่อลดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมลงได้ ทั้งยังมีแนวคิดในการพิจารณาสร้าง Stablecoin ของรัฐเอง ซึ่งกำลังหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย
1. หากมีการนำเข้ายุทโธปกรณ์ ต้องจ้างงาน-โอนถ่ายเทคโนโลยี (Defence Offset)
2. ประชาชนเข้าชื่อออนไลน์เสนอโครงการ-ข้อบัญญัติ ถอดถอนท้องถิ่นได้
3. ระบบ AI จับโกง ทุกบริการภาครัฐ ทำได้ผ่านมือถือ
4. นำเทคโนโลยีการแพทย์ทางไกลมาใช้แก้ปัญหานักเรียนเครียด-ซึมเศร้าให้มีที่ปรึกษา
5. ส่งเสริมเทคโนโลยีทางการศึกษา
2.พรรคเพื่อไทย กลายเป็นกระแสเพียงข้ามคืน กับนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทของเพื่อไทย ไม่ใช่การสร้างสกุลเงินใหม่ แต่คล้ายคูปองแลกซื้อสินค้า กระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้า แม้จะมีข้อถกเถียงกันอย่างมาก แต่เพื่อไทยเดินหน้าชูนโยบายดังกล่าวอย่างหนักแน่น และก่อนหน้านี้ยังมีการประกาศประกาศนโยบาย “ประเทศไทยเป็น Blockchain Hub แห่งอาเซียน” เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยระดมทุนจากทั่วโลกโดยไม่ต้องผ่านระบบธนาคารแบบเดิม ส่งเสริมให้ศิลปินไทยขายงานเป็น NFT ไปยังตลาดโลก
1. ใช้ระบบ Blockchain สร้างความโปร่งใสให้รัฐบาล ทุกอย่างตรวจสอบได้ ลดการคอร์รัปชัน
2. ใช้ระบบการชำระเงินและค่าธรรมเนียมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
3. ใช้ Central Bank Digital Currency (CBDC) เพื่อความโปร่งใสการจัดจ้าง
4. ยกระดับหน่วยงานราชหน่วยงานข้าราชการดิจิทัล (e-government = paperless government)
5. ผลักดันไทยเป็น Blockchain Hub และ Fintech Center ของอาเซียน
3.พรรคพลังประชารัฐ แม้ก่อนหน้านี้“ฟิล์ม รัฐภูมิ” โฆษกพรรคพลังประชารัฐ แสดงความคิดเห็นถึง นโยบายสกุลเงินดิจิทัลของพรรคคู่แข่งอย่างพรรคเพื่อไทยว่า ตนนั้นไม่เห็นด้วยเพราะ “ไม่เชื่อว่า Blockchain จะนำไปใช้งานได้จริง” พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า เงินงบประมาณของรัฐที่นำมาแจกจะไปอยู่ที่ใคร ไม่สามารถตรวจสอบได้เพราะไม่มีใครรู้จัก Satoshi Nakamoto ผู้สร้าง Blockchain แต่รองหัวหน้าพรรคอย่าง ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ยังให้ความสนใจกับการเร่งพัฒนาบุคคลากรด้านไอที AI,Crypto
1. Bangkok 5.0 ผุด 9 ย่านนวัตกรรม พัฒนาย่านการค้า คืนคลองสวยน้ำใสให้คนกรุง สร้างเครือข่ายคมนาคมที่สมบูรณ์ผ่านเทคโนโลยี 5G
2. ลงทุนขนาดใหญ่ เน้นโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลโดยเฉพาะ 5G
3. ยกระดับ SME บริษัท Startups
4. การเกษตรประชารัฐ 4.0 ใช้เทคโนโลยีช่วยเพิ่มผลผลิต
5. นำเทคโนโลยีการสื่อสารช่วยเสริมด้านการศึกษา
4.พรรคประชาธิปัตย์ พรรคนำเสนอการอัดฉีดเศรษฐกิจ 1 ล้านล้านบาท เพื่อต้องการกระตุ้นให้เศรษฐกิจโตถึง 5% ตามศักยภาพที่มีอยู่ เพราะถ้าเศรษฐกิจโตต่ำกว่า 5% จะไม่เป็นที่สนใจของนักลงทุน เมื่อไม่มีการลงทุนเกิดขึ้น เศรษฐกิจไทยก็จะไม่สามารถซัพพอร์ทดูแลประชาชนที่ลำบากได้ และที่ผ่านมาเรามาผิดทาง เพราะเรากระตุ้นคนโดยการใช้จ่าย
1. ส่งเสริมบุคลากรด้านเทคโนโลยีจ้างงาน 1 หมื่นคนดูแลไอทีชุมชน
2. ส่งเสริมการสื่อสารผ่าน 5G นำเทคโนโลยีมาใช้ในภาครัฐ (Govtech)
3. อินเทอร์เน็ตฟรี 1 ล้านจุดทุกหมู่บ้าน ทุกห้องเรียน
4. ปรับการทำงานของกระทรวงดิจิทัลให้ทันสมัยขึ้น
5.พรรคชาติพัฒนากล้า ปรัชญาของพรรคชาติพัฒนากล้า คือ การส่งเสริมการแข่งขัน เราเชื่อมากที่สุด การแข่งขันที่โปร่งใส และเป็นธรรม กลไกตลาด ยังเป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจที่ดีของไทยเรา
1. ส่งเสริมเศรษฐกิจสีน้ำเงิน นำเทคโนโลยีดิจิทัลผลักดันประเทศ
2. ส่งเสริมเศรษฐกิจสีเหลือง เน้นธุรกิจที่สร้างสรรค์ Creative Economy พัฒนาและผลักดัน Soft Power ของคนไทย
3. ส่งเสริมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเงิน (Fintech)
4. โครงสร้างการทำงานของรัฐเล็กลงด้วยเทคโนโลยี (GovTech) ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย 24 ชั่วโมง
6.พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะหัวหน้าทีมปฏิบัติการเชิงรุกของรัฐบาลตลอด 2 ปีที่ผ่านมา พร้อมประกาศ “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ”
1. พัฒนาระบบการศึกษาโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Education)
2. พัฒนาระบบสุขภาพ (Digital Health)
3. ส่งเสริมเทคโนโลยี (Citizen Force) ให้ประชาชนมีส่วนร่วมตัดสินใจทางการเมือง
4. ส่งเสริมการทำธุรกิจออนไลน์
5. สานต่อโครงการด้านเทคโนโลยีจากรัฐบาลชุดเดิม