เครือข่าย Tron กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดกลายเป็นเครือข่ายที่ทำรายได้จากค่าธรรมเนียมสูงเป็นอันดับสองของอุตสาหกรรมคริปโต รองจาก Tether เท่านั้น ข้อมูลจาก TokenTerminal ระบุว่าในปีนี้ Tron ทำรายได้จากค่าธรรมเนียมไปแล้ว $330 ล้าน ซึ่งมากกว่า Ethereum ที่ทำได้ $172 ล้าน และสูงกว่า Solana ที่มีรายได้ $278 ล้าน

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Tron เติบโตคือ ความนิยมของ stablecoin บนเครือข่าย โดยมูลค่าตลาดของ stablecoin บน Tron ขยายตัวถึง $61 พันล้าน และมีปริมาณการโอนบนเครือข่ายสูงถึง $100 พันล้านในวันเดียว นอกจากนี้ จำนวนผู้ถือ USDT บน Tron ก็เพิ่มขึ้นเป็น 60.4 ล้านราย แสดงถึงความต้องการใช้งานที่สูงขึ้น

นอกจากค่าธรรมเนียมและธุรกรรมที่เพิ่มขึ้น Tron ยังได้รับแรงหนุนจากกลไก staking และนโยบายลดอุปทาน โดยเครือข่ายมีอัตราผลตอบแทนจาก staking ที่ 4.5% สูงกว่า Ethereum และ Sui ขณะเดียวกัน จำนวน TRX ในระบบลดลง เนื่องจากมีการเผาเหรียญมากกว่าการออกเหรียญใหม่ ส่งผลให้ Tron มีแนวโน้มเป็นสินทรัพย์ที่หายากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลเชิงบวกต่ออนาคตของเครือข่าย