Paradigm บริษัทด้านการลงทุนในคริปโต ออกมาเรียกร้องให้ชุมชน Ethereum เพิ่มความเร็วในการพัฒนาระบบ โดยเสนอให้ดำเนินการอัปเกรดหลักมากกว่าหนึ่งครั้งต่อปี เพื่อเร่งพัฒนาเทคโนโลยีให้สอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของตลาดคริปโต แทนที่จะชะลอหรือ “หยุดนิ่ง” การพัฒนาของโปรโตคอลหลักเพื่อรักษาความกระจายศูนย์ บทความนี้เขียนโดย Matt Huang ผู้ร่วมก่อตั้งของ Paradigm, Georgios Konstantopoulos CTO และพาร์ทเนอร์คนอื่นๆ

Paradigm ระบุว่า Ethereum ควรมุ่งเน้นการพัฒนาสู่ขีดจำกัดที่เป็นไปได้โดยเร็ว ก่อนจะถกเถียงถึงแนวทางในอนาคต โดยเน้นว่า “ไม่ว่าจะเห็นว่า Ethereum ควรเดินไปในทิศทางใด การไปถึงจุดนั้นได้เร็วขึ้นย่อมดีกว่า” บทความชี้ให้เห็นถึงการปรับปรุงที่สามารถทำได้ทันที เช่น การปรับปรุง UX ของธุรกรรมแบบกลุ่ม (batched transactions) ผ่านการพัฒนา account abstraction framework, การพัฒนา rollups เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น และการปรับปรุง opcode บน Layer 1 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องแก้ไข block gas limit

นอกจากนี้ Paradigm ยังกล่าวถึงโครงการ Reth Ethereum client ที่ทางบริษัทพัฒนาขึ้น โดยปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาด execution clients ของ Ethereum อยู่ที่ 2% เปรียบเทียบกับ Geth ผู้นำตลาดที่ครองส่วนแบ่ง 43% และ Nethermind ที่มี 36% โครงการนี้ถูกออกแบบให้เป็น SDK สำหรับการสร้างโหนด “EVM-core” เพื่อช่วยให้นักวิจัยและวิศวกรสามารถทดลองนวัตกรรมใหม่ๆ ได้ Paradigm เชิญชวนให้ชุมชนนักพัฒนาร่วมมือกันสร้างฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพ ความต้านทานต่อการเซ็นเซอร์ และความพร้อมสำหรับอนาคตของ Ethereum

Paradigm ได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าการเร่งพัฒนา Ethereum จะช่วยให้แพลตฟอร์มสามารถตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงในตลาดและความต้องการของผู้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงช่วยสร้างระบบนิเวศที่สามารถแข่งขันและเติบโตในอุตสาหกรรมคริปโตที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว