เรื่องเล่าหน้าแคมป์ : Scam Story ย้อนรอยแชร์ลูกโซ่ Plus Token

เรื่องเล่าหน้าแคมป์ : Scam Story ย้อนรอยแชร์ลูกโซ่ Plus Token

เรื่องเล่าหน้าแคมป์
March 21, 2023 by narutra
photo_2023-03-21_20-00-51

เรื่องเล่าหน้าแคมป์วันนี้จะพาไปย้อนรอยกับหนึ่งในตำนานโปรเจกต์แชร์ลูกโซ่ที่สร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์

จุดเริ่มต้น

ย้อนกลับไปในเดือนเมษายน 2018 ได้มีโปรเจ็กต์กระเป๋าเงินคริปโตชื่อว่า Plus ออกมา โดยทีมงานเบื้องหลังได้บอกว่า ถ้าเกิดผู้ใช้งานทำการฝากเหรียญเข้ามาไว้ใน Plus Wallet จะได้รับผลตอบแทนถึง 9-18% ต่อเดือน ในรูปแบบของ Plus Token โดยจำนวนผลตอบแทนขึ้นอยู่กับมูลค่าของเหรียญที่ฝากเข้ามาและการเชิญชวนต่อกัน ตามสไตล์ของแชร์ลูกโซ่

ที่นี้นักลงทุน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนและเกาหลีใต้ ก็ได้พากันดาวน์โหลดและฝากเงินเข้าไปใน Plus Wallet เพราะผลตอบแทนที่ล่อตาล่อใจ

หน้าตาของกระเป่า Plus Wallet | ที่มา : bitcoinmagazine

โกยเงินหนี

และในเดือนมิถุนายน 2019 ก็เริ่มมีสัญญาณเริ่มต้นของปัญหาออกมา เมื่อผู้ใช้งานบางรายเริ่มบ่นถึงความล่าช้าในการถอนเงิน บางรายรอถึง 35 ชั่วโมงก็ยังไม่สามารถถอนเงินได้ 

ในทีแรก Plus ออกมาประกาศว่า ที่ถอนเงินได้ช้าก็เพราะว่าค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมที่สูงขึ้น แต่ผู้ใช้งานก็ไม่มีใครเชื่อ ต่างก็คิดกันว่า Plus กำลังโกหกและเริ่มตะหงิดๆ อยู่ในใจ

จนในที่สุด Plus ก็ได้ออกมาส่งข้อความว่า “Sorry, We have run” ที่กลายเป็นสัญญาณบอกว่า ทีมงานของ Plus Wallet ได้ทำการขโมยเงินของผู้ใช้งานและหนีไปแล้ว

ขโมย Bitcoin ไปมากกว่า 1% ของปริมาณ Bitcoin ทั้งหมด

การโกงของ Plus Wallet ได้สร้างความแตกตื่นไปทั่วทั้งตลาด เพราะจากรายงานของ Peckshield พวกเขาระบุว่าทีมงาน Plus Wallet ได้ขโมย Bitcoin ไปประมาณ 70,000 BTC หรือคิดเป็นเป็น 1% ของจำนวน Bitcoin ที่มีในตอนนั้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 700.84 ล้านดอลลาร์ ณ เวลานั้น นอกจากนี้ยังมี Ethereum อีก 789,511 ETH (142.11 ล้านดอลลาร์)  และ 26,299,109 EOS (92.04 ล้านดอลลาร์)

นักลงทุนในตลาดตกอยู่ในความวิตกกังวล เพราะไม่รู้ว่าทีมงาน Plus Wallet จะทำการเทขายเหรียญที่ขโมยมาตอนไหน

การเทขายเหรียญของ Plus Wallet เป็นหนึ่งในสาเหตุของตลาดกลายเป็นขาลง ?

ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ที่ชื่อ Ergo ได้ออกมาบอกว่า เขาได้ทำการติดตาม Bitcoin ที่ถูก Plus Wallet ขโมยไป และพบว่าได้มีการโอน Bitcoin ไปยังกระดานเทรดต่างๆ เพื่อทำการเทขาย โดยเฉพาะ Huobi ที่มีการโอน Bitcoin เข้าไปมากที่สุด

Ergo ระบุว่ามีการเทขาย Bitcoin เฉลี่ยวันละ 1,300 BTC ตั้งแต่เดือนสิงหาคม – ธันวาคม 2019 ทำให้ราคาของ Bitcoin ค่อยๆ ลดลงจาก 9,981 ดอลลาร์ ในวันที่ 1 สิงหาคม เป็น 7,182 ดอลลาร์ในวันที่ 4 ธันวาคม

และการเทขายครั้งใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม ปี 2020 ด้วยจำนวนกว่า 13,000 BTC หรือประมาณ 100 ล้านดอลลาร์ ณ เวลานั้น ทำให้ราคาของ Bitcoin ร่วงกว่า -10% จาก 8,900 ดอลลาร์ เหลือ 8,000 ดอลลาร์

และหลังจากนั้น ในวันที่ 12 มีนาคม องค์อนามัยโลกก็ได้ประกาศให้เชื้อไวรัส Covid-19 เป็นการระบาดใหญ่ทั่วโลก ทำให้ราคาของ Bitcoin -50% ทันที่ และกลายเป็นจุดต่ำที่สุดก่อนเข้าสู่ตลาดกระทิงที่ลากยาวมากจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2021

ถูกจับกุม

วันที่ 30 กรกฏาคม 2020 สำนักข่าว CLS จากประเทศจีน รายงานว่าได้มีการเข้าจับกุมผู้ต้องสงสัยกว่า 109 คนที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับโครงการ Plus Token โดย 27 เป็นผู้ที่ทำหน้าที่หลอกลวงผู้ใช้งาน ส่วนอีก 82 คนทำงานอยู่เบื้องหลัง

ส่วนหนึ่งของทีม Plus Token ที่ถูกจับกุม | ที่มา : bitcoinmagazine

ทางการจีนได้ทำการยืดสินทรัพย์ของ Plus Token มูลค่ารวมกว่า 4,200 ล้านดอลลาร์ โดยแบ่งเป็น

  • Bitcoin 194,775 BTC
  • Ethereum 833,083 ETH 
  • Litecoin 1,400,000 LTC
  • EOS 27,600,000 EOS 
  • Dash 74,167 Dash 
  • Ripple 487,000,000 XRP 
  • Dogecoin 6,000,000,000 DOGE
  • Bitcoin Cash 79,581 BCH
  • Tether 213,724 USDT

โดยคริปโตทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ใน National Treasury ของประเทศจึน เนื่องจากการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศจีนนั้นเป็นสิ่งผิดกฏหมาย ทำให้ผู้เสียหายไม่สามารถทำการขอคืนสินทรัพย์ได้

ผู้เสียหายบางคนกล่าวติดตลกว่า อยู่ดีๆ พวกเขาก็ได้บริจาคเงินให้กับรัฐบาลโดยไม่ได้ตั้งใจ

การตัดสินคดีของ Plus Token สิ้นสุดลงในเดือนธันวาคม ปี 2020 โดยบรรดาแกนนำต่างๆ ถูกตัดสินจำคุกกันไปคนละ 2-11 ปี และโดนปรับเงินตั้งแต่ 120,000-6,000,000 หยวน

ถึงแม้ว่าจะมีผู้เสียหายจำนวนมากจากการหลงเชื่อโปรเจกต์แชร์ลูกโซ่ที่มาพร้อมกับผลตอบแทนที่เย้ายวนใจเกินกว่าความเป็นจริง แต่ในปัจจุบันก็ยังมีผู้คนอีกมากที่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพเหล่านี้

ดังนั้น ขอผู้อ่านจงลงทุนด้วยความรอบคอบและระมัดระวังครับผม

Related posts