เล่าเรื่องหน้าแคมป์ : ทำไมอันดับเครดิตถึงสำคัญ? ต่างชาติเทกระจาดหลังข่าว ไทยเตรียมโดนลดเครดิต

เล่าเรื่องหน้าแคมป์ : ทำไมอันดับเครดิตถึงสำคัญ? ต่างชาติเทกระจาดหลังข่าว ไทยเตรียมโดนลดเครดิต

เรื่องเล่าหน้าแคมป์
September 21, 2023 by cryptocamping
Frame 1015 (25)

จากระแสการลดอันดับเครดิตของไทยจากนโยบายรัฐบาล ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ BBB+ มองว่าฐานะทางการคลังไม่ดีนัก หนี้เพิ่มขึ้น เรียกได้ว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่สะท้อนความน่าเชื่อถือ และทำให้ต่างชาติ เทกระจาดหุ้นไทยออก

อันดับเครดิตเรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือหนึ่งที่นักลงทุนใช้เป็นตัวในการตัดสินใจ ที่ช่วยที่ช่วยสะท้อนทั้งโอกาสหรือความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ หรือใช้ประเมินในการยอมรับความเสี่ยงของตนเอง หรือทำคงามเข้าใจอย่างง่ายคือเป็นการประเมินความน่าเชื่อถือในการลงทุน เพื่อประเมินความเสี่ยงที่จะลงทุน ซึ่งอันดับเครดิตบริษัทผู้ออกจะที่พิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ทั้งลักษณะการดำเนินธุรกิจของบริษัท ผลประกอบการ รวมถึงปัจจัยภายนอกที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัท

โดยอันดับเครดิตแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ

1. Investment grade ที่มีอันดับเครดิต AAA เป็นอันดับเครดิตสูงสุดที่บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือจะจัดให้แก่ตราสารหนี้ หรือองค์กร อันดับรองลงมาคือ AA+ AA AA- A+ A A- BBB+ BBB และ BBB-

2. Speculative grade ที่เรียงลำดับจาก BB+ BB BB- B+ B B- CCC+ CCC CCC- CC C จนถึงอันดับเครดิต D ซึ่งเป็นอันดับต่ำสุดที่หมายถึงสภาวะผิดนัดชำระหนี้ ดังนั้น อันดับเครดิต AAA จึงแสดงถึงความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำที่สุด อันดับเครดิตผู้ออก Issuer rating อาจแตกต่างจากอันดับเครดิตหุ้นกู้ Issue rating ได้

ยิ่งโดยเฉพาะกับอันดับเครดิตของหุ้นกู้ จะเห็นว่าอันดับเครดิตหุ้นกู้จะสะท้อนความเสี่ยงการผิดนัดชำระได้ชัดเจนกว่าอันดับเครดิตองค์กร

และอันดับเครดิตสามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นกับหลายปัจจัย ได้แก่ ผลการดำเนินงานของบริษัท แนวโน้มเศรษฐกิจภายในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจกระทบต่อความสามารถในการดำเนินกิจการของบริษัท เช่น โควิดที่เกิดขึ้นในปี 2020 ส่งผลให้อันดับเครดิตของหลายบริษัทโดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยว และภาคการขนส่ง ถูกลดระดับลง หุ้นกู้ เป็นเครื่องมือหนึ่งในการกู้ยืมเงินของธุรกิจเอกชน โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยตามที่กำหนดไว้ตลอดระยะเวลาการกู้ยืม และเมื่อครบกำหนดอายุก็จะได้รับเงินต้นคืน แต่ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับดอกเบี้ยหรือเงินต้นตามที่กำหนดหากผู้ออกผิดนัดชำระ

ซึ่งการจัดอันดับเครดิตจะแบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ

1. ระดับสากล (Global Scale Rating) โดยอันดับเครดิตระดับสากลเป็นการประเมินความสามารถในการชำระหนี้เป็นการประเมินที่อยู่บนเกณฑ์เดียวกันทั่วโลก

2.ระดับประเทศ (National Scale Rating) เป็นการประเมินความสามารถในการชำระหนี้โดยเปรียบเทียบกับหุ้นกู้หรือผู้ออกภายในประเทศนั้นๆ โดยส่วนใหญ่หุ้นกู้ที่เสนอขายในประเทศมักจัดอันดับเครดิตระดับประเทศ

สำหรับบริษัทจัดอันดับเครดิตในประเทศไทยที่รู้จักกันทั่วไป ได้แก่ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด และบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งพันธบัตรรัฐบาลที่เสนอขายในประเทศในสกุลเงินบาทถือว่ามีอันดับเครดิตสูงที่สุด คือ AAA เนื่องจากรัฐบาลมีอำนาจในการเก็บภาษีเพื่อชำระคืนเงินต้นได้ ส่วนหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทเอกชนซึ่งไม่ได้มีอำนาจเช่นเดียวกับรัฐบาล แม้จะมีอันดับเครดิตสูงสุด AAA ก็มีโอกาสผิดนัดชำระสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ AAA จึงให้อัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋วที่สูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลที่อายุเท่ากัน

แต่ถ้ารัฐบาลและบริษัทเอกชนจะออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้เสนอขายต่างประเทศ ก็ต้องจัดอันดับเครดิตระดับสากลที่เป็นการประเมินความสามารถในการชำระคืนหนี้ที่อยู่บนเกณฑ์เดียวกันทั่วโลก

และสิ่งที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่คือ ความน่าเชื่อถือ จากนโยบายของรัฐ ของการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเม็ดเงินมหาศาล อาจทำหนี้พุ่ง ถือเป็นความเสี่ยงต่อ Fund Flow อีกด้วย

Related posts