เล่าเรื่องหน้าแคมป์ : รู้เท่าทัน หากเกิด Government Shutdown ไปต่อหรือพอแค่นี้?
นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ของการเมืองสหรัฐฯ แต่เศรษฐกิจที่บอบช้ำ แผลเก่ายังไม่ทันหายทำนักลงทุนต้องจับตาเป็นพิเศษ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหากเกิด Government Shutdown ที่รัฐบาลสหรัฐฯ จำต้องปิดทำการลงเนื่องจากฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติไม่สามารถตกลงกันในเรื่องการจัดสรรงบประมาณได้ แต่เกิดขึ้นมาแล้วกว่า 20 ครั้ง ถ้ายังจำกันได้ตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีจอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช ประธานาธิบดีบิล คลินตัน หรือแม้แต่กระทั่งแผลใหม่อย่างในสมัยประธานาธิบดีบารัก โอบามา
แต่ครั้งที่ยาวนานที่สุดคือสมัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อปี 2018 กินระยะเวลาเนิ่นนานกว่า 34 วัน จากปัญหาจัดสรรงบให้กับนโยบายกำแพงชายแดนเม็กซิโก-สหรัฐฯ ซึ่งแน่นอนว่าเหตุการณ์เหล่านี้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นอยู่ไม่น้อย และแน่นอนว่าการเมืองที่ไม่ปกติจะส่งผลต่อเศรษฐกิจ เหมือนที่เราได้ยินบ่อยครั้งว่า ยิ่งยืดเยื้อ ยิ่งเสียหาย
โดยการประเมินของ Goldman Sachs วิเคราะห์ว่าการชัตดาวน์จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ -0.2% ต่อสัปดาห์ และ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Moody’s ได้ออกมาเตือนว่าอาจจะต้องปรับลดอันดับเครดิตของสหรัฐฯ ลง
จากสถิติพบว่าเมื่อเกิด Government Shutdown กับดัชนีหุ้นสหรัฐฯ S&P 500 โดยนับตั้งแต่ปี 1981 ถึงปี 2018 จำนวนทั้งหมด 15 ครั้ง S&P 500 ปรับตัวลดลงแค่ 3 ครั้งเท่านั้น แม้กระทั่งครั้งล่าสุดในปี 2018 ตลาดหุ้นบวกไปถึง 9.3% แต่สถานะการคลังของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มถดถอยลงต่อเนื่อง หนี้โดยรวมของรัฐ ณ ปัจจุบัน เกินกว่า 100% ของ GDP
และหากสถานการณ์ Shutdown มีแนวโน้มยืดเยื้อเป็นระยะเวลานาน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญบั่นทอนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ