เล่าเรื่องหน้าแคมป์ : คุ้มไหมกับการส่ง Super App แจกเงินหมื่น! พร้อมข่าวลือค่าทำแอปหมื่นล้าน! เพราะกำหนดในบล็อกเชน ทำให้ต้องเลือกลืม แอฟเป๋าตังค์!
ก่อนอื่นเราจะมาทำความรู้จัก “Super App” แอปพลิเคชันครบวงจร ทำงานแบบมัลติฟังก์ชัน หลังชัดเจนแล้วว่า จะพัฒนา Super App สำหรับโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท โดย Super App เป็นคำนิยามของแอปพลิเคชันครบวงจรบนสมาร์ตโฟน ที่ครอบคลุมการทำงานแบบมัลติฟังก์ชั่น สามารถรับเงินจากโครงการรัฐที่จะรวมการสมัคร ยืนยันตัวตน เช็กสิทธิ รับเงิน และอื่น ๆ โดยรวมไว้ในแอปพลิเคชันเดียว เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
โดยเป็นความร่วมมือของกระทรวงการคลัง และสถาบันการเงินของรัฐ ซึ่งสถาบันการเงินของรัฐเข้ามาช่วยเรื่องการพัฒนาระบบ
หากมองที่ Super App ในประเทศไทย ก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวออกมาแล้วว่า ทางRobinhood ทุ่มเงินกว่า 5,000 ล้านบาทพัฒนา Super App แต่ทางด้านนายจุลพันธ์ และนายกรัฐมนตรีเองก็ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่ว่า ใช้งบถึง 1.2 หมื่นล้านบาท จัดทำSuper App ดังกล่าว
แต่กระนั้นก็มีข้อสงสัยมากมายกับทางเลือกที่เซย์โนแอพที่คนไทยคุ้นเคยอย่างแอพเป๋าตังค์พร้อมเหตุผลที่ว่า แอปพลิเคชันเดิมเมื่อมาทำดิจิทัลวอลเล็ต ฟังก์ชันจะเกิดความแตกต่างในระบบ และวัตถุประสงค์ก็แตกต่าง เพราะกำหนดในบล็อกเชน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต้องมีความปลอดภัยและมีกลไกที่โปร่งใส นอกจากนี้ แอปพลิเคชันในอดีตข้อมูลยังเป็นของรัฐ แต่ตัวแอปพลิเคชันไม่ใช่ของรัฐ ดังนั้น การต่อยอดจึงมีข้อจำกัด แต่แอปพลิเคชันใหม่จะดึงข้อมูลของรัฐที่เป็นประโยชน์มาใช้ เช่น ฐานข้อมูล และโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไม่มีการลงทะเบียน แต่จะให้มีการยืนยันตัวตน เพราะมีข้อกฎหมายของธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้
ความเห็นของCEO บริษัท สมาร์ทคอนแทร็ค บล็อกเชน สตูดิโอ ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ในทางเทคนิคนั้น ไม่จำเป็นต้องสร้าง Super App ใหม่ รัฐบาลสามารถนำเอา “แอปเป๋าตัง” ที่มีอยู่แล้ว มาต่อยอดเป็น Super App ได้ทันที เนื่องจากในแอปเป๋าตัง ก็มีหลายแอปอยู่ข้างในอยู่แล้ว สามารถเขียนโปรแกรมต่อเข้าบล็อกเชนได้ทันที ดังนั้น การที่รัฐบาลบอกว่า แอปเป๋าตัง ต่อยอดยาก จึงดูย้อนแย้ง เพราะในทางเทคนิค สามารถผูกกับแอปเป๋าตังได้เลย